Friday, January 28, 2011

อาวุธสุดยอด

อาวุธสุดยอด



วันหนึ่งนานมาแล้วผมนั่งทานอาหารกับรุ่นน้องหลายคนล้อมกันเป็นวง มีรุ่นน้องคนหนึ่งซึ่งนั่งถัดจากผมออกไปพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น


“พี่ๆผมมีอะไรให้ดู” รุ่นน้องซึ่งนั่งอยู่ข้างๆเอื้อมมือมาสะกิดผม พร้อมกับดึงชายเสื้อขึ้นมาจนถึงเอว เผยให้เห็นถึงก้อนโลหะสีดำที่ซุกตัวอยู่ในซองพลาสติกสีดำทะมึนที่ขอบกางเกงของเขา ผมรู้ทันทีว่ามันเป็นปืน ซิก ซาวเออร์ (SIG SAUER) จึงถามออกไปว่า “P228 รึ?”


รุ่นน้องยิ้มเบิกบานใจที่ผมพลาด “P229 ครับพี่... รุ่นล่าสุดเลย” สีหน้าภูมิใจ แววตาเบิกกว้าง “ตัวนี้หนังสือทุกฉบับรับรองเป็นสุดยอดของวงการเชียว ผมลงชื่อจองที่ร้านเกือบปีกว่าของจะเข้า ตอนร้านโทรมา ผมเก็บเงินได้แค่ครึ่งเดียวเอง ต้องกัดฟันรูดบัตรเครดิตเพิ่ม ตอนนี้ยังต้องผ่อนบัตรอีกหลายเดือนครับ แต่ก็คุ้มที่ได้เป็นเจ้าของอาวุธสุดยอดอย่างนี้ รู้สึกมั่นใจเหมือนได้กระบี่วิเศษมาเป็นคู่มือเลย พี่ดูสิ...” เขาทำท่าจะชักกระบี่วิเศษให้ผมเชยชม ขณะกำลังยักแย่ยักยันเพราะซองมันใหญ่ ไม่คุ้นมือกับด้ามปืนและนั่งเบียดกันหลายคน ผมใช้มือซ้ายกุมมือขวาเขาแล้วกดเอาไว้ ใช้ซ่อมในมือขวาของผมจิ้มไปที่คอเขาเบาๆหนึ่งที ทำให้เขาสะดุ้ง พลางพูดว่า “คุณแพ้แล้ว” เขามองผมอย่างงงๆ ผมอธิบายให้เขาฟังว่า...


ต้องขอบอกว่ารุ่นน้องคนนี้เป็นตัวแทนของคนกลุ่มหนึ่งซึ่งตามหาความสมบูรณ์แบบ พร้อมจะไขว้คว้าอะไรก็ได้ที่อยู่ในกระแสนิยมหรือมีใครยืนยันรับรองว่าดีที่สุด โดยเชื่อว่าสิ่งนั้นจะเหมาะกับเขาและจุดมุ่งหมายในการใช้งานของเขาอย่างแน่นอน เขายินดีจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อแลกกับอุปกรณ์ที่เขาเคยเห็นแต่ในรูปถ่ายเท่านั้น โดยลืมไปว่าอาวุธทุกชนิดรวมทั้งอุปกรณ์ต่างๆที่ใช้มือจับถือเพื่อใช้งาน และมีปุ่มกด ก้านโยก ฯลฯ เพื่อใช้นิ้วมือบริหารจัดการบังคับบัญชา ล้วนจัดอยู่ในกลุ่ม “เครื่องมือ” ซึ่งมีลักษณะ น้ำหนักและมิติต่างๆเหมาะกับผู้คนส่วนใหญ่ ซึ่งอาจไม่ใช่คุณ (อย่าลืมว่าคนออกแบบเป็นคนตะวันตกซึ่งแตกต่างจากคนเอเชีย) และเครื่องมือทุกชนิดจะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพก็ต่อเมื่ออยู่ในมือที่เหมาะสมและชำนาญ อีกทั้งต้องใช้อย่างถูกต้องกับวัตถุประสงค์ที่เครื่องมือนั้นถูกออกแบบมาด้วย


เมื่อมีผู้มาขอคำแนะนำในการซื้ออาวุธประจำกายหรืออุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ในการประกอบอาชีพต่างๆ ผมมักบอกว่า “เลือกดูให้ตรงกับวัตถุประสงค์ของคุณ แล้วลองหาตัวจริง ของจริงมาลองจับถือ สวมใส่ หรือลองใช้งานจริงอย่างที่เราตั้งใจจะใช้ ถ้าจับถือได้ถนัดไม่มีปัญหากับปุ่มกดหรือคันบังคับต่างๆ พื้นผิวอุปกรณ์และรูปทรงมีความเป็นมิตรกับผิวหนังคุณ ไม่ระคายเคืองเมื่อใช้งานจริง รวมทั้งราคาต้องต่ำกว่างบโดยเฉพาะอาวุธปืน เพื่อให้มีเงินเหลือไปซื้อกระสุนซ้อม เข้าฝึกอบรมเรียนรู้การใช้อาวุธปืนอย่างถูกวิธี หรืออุปกรณ์อื่นที่ต้องเข้ากันได้กับตัวเรา มันจึงจะตอบสนองวัตถุประสงค์ของเราได้


“มืออาชีพ” ทุกคนย่อมถือว่า “เครื่องมือทุกชิ้นที่เขาใช้งานเป็นเพียงผู้รับใช้” เขาไม่ยอมให้ยี่ห้อ ราคาหรือชื่อเสียงของเครื่องมือที่เขาใช้มาข่มตัวเองได้


อีกประการที่รุ่นน้องคนนี้ลืมไป คือ หากเขาคิดว่าสิ่งนี้เป็นกระบี่วิเศษที่ตามหามานาน เมื่อไขว้คว้ามาพกประจำกายเพื่อป้องกันตัว มันก็ไม่ควรถูกนำมาแสดงต่อหน้าคนอื่นไปทั่วเหมือนเครื่องประดับทั่วๆไป เพราะอาวุธวิเศษนั้นจะคงความวิเศษได้ก็ต่อเมื่อถูกนำมาใช้อย่างชำนาญ ในจังหวะที่เหมาะสม หากเราต้องจ่ายเงินจนหมดตัวแล้วแทนที่จะเอามาฝึกซ้อมให้คุ้นมือแม่นยำ แต่กลับเอาออกโอ้อวดให้คนรู้กันทั่ว ถึงเวลาคับขันคนร้าย (อาจเป็นคนที่คุ้นเคยกันและรู้ว่าคุณมีดาบวิเศษ) คงไม่ปล่อยให้คุณชักอาวุธออกมาฟาดฟันเป็นแน่ แต่จะใช้วิธีแอบเข้าประชิด ควบคุมมือคุณแล้วเล่นงานคุณด้วยซ่อมจิ้มอาหารราคาถูกๆ แสดงว่าคนร้ายนั้นกลับมีอาวุธวิเศษกว่าคุณเพราะใช้ได้ผลกว่า


แท้ที่จริงพวกคุณส่วนใหญ่เกิดมาพร้อมกับของวิเศษอยู่แล้ว คุณมีร่างกายที่ครบบริบูรณ์ สุขภาพแข็งแรง อายุที่ยังอ่อนเยาว์ สมองที่ปราดเปรื่องแจ่มใส แทนที่คุณจะทำลายมันทีละน้อยด้วยการใช้ชีวิตอย่างประมาท เช่น การเที่ยวเตร่กลางคืน ดื่มและกินอาหารที่บั่นทอนสุขภาพและสติ ข้องแวะกับอบายมุขหรือบุคคลที่เป็นเสมือนสายล่อฟ้าซึ่งคอยชักนำความยุ่งยากมาให้ คุณก็ยอมสละเวลาและหยาดเหงื่อฝึกฝนทักษะที่มีประโยชน์ให้มันคมกล้าและแข็งแกร่ง เท่ากับคุณมีอาวุธวิเศษอยู่ในมือ เป็นอาวุธที่พร้อมใช้ซึ่งไม่มีวันหล่นหายหรือถูกยื้อแย่งไปได้ ยิ่งคุณหมั่นศึกษายุทธศาสตร์อย่างกว้างขวางสะสมความรู้ที่คุณมี คือ อาวุธวิเศษที่คุณสร้างขึ้นได้ในตัวคุณเอง คับขันขึ้นมาก็สามารถใช้ได้เลยไม่ต้องหยิบฉวยจากที่ไหน


“มีอาวุธวิเศษอยู่ในตัวคุณ ค้นหามันให้เจอ เอามาลับให้คมกริบ”


เรียบเรียงโดย Snap shot

AMOK!

AMOK!



เมื่อไม่นานมานี้ผมได้มีโอกาสไปพบ Mr. Randy Hodges และ ครู นก (Nok) ภรรยา ที่บ้านพัก จ. อุดรธานี ซึ่งอยู่ใกล้สนามบินมากโดยคุณ Snap shot เป็นผู้แนะนำ ทั้งคู่เป็น Qualified AMOK! Instructor และถือโอกาสไปเรียนรู้การป้องกันตัวด้วยมีดและมือเปล่ากับทั้งสองท่านในรูปแบบของ AMOK! ขนานแท้


Mr. Tom Sotis เป็นผู้คิดค้นรูปแบบการต่อสู้ป้องกันตัว AMOK! เมื่อหลายสิบปีก่อน โดยมีจุดเด่นที่การใช้มีดเพื่อป้องกันตัว ซึ่งมีพื้นฐานมาจากศิลปะการต่อสู้ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีการประยุกต์และรวบรวมแนวคิดให้เป็นหมวดหมู่ชัดเจน เรียนรู้ง่าย มีประสิทธิภาพ สามารถนำไปปรับใช้กับการป้องกันตัวด้วยมือเปล่าและอาวุธอื่นๆได้ เช่น ไม้กระบองสั้น (Stick) รวมไปถึงการใช้สิ่งของรอบตัวนำมาเป็นอาวุธ (Improvised weapons)


AMOK! มีการสอนกันอย่างแพร่หลายทั่วโลกและเป็นที่นิยมมากในประเทศอัฟริกาใต้ซึ่งเป็นประเทศหนึ่งที่มีการก่ออาชญากรรมสูง และ AMOK! ได้พิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพดีเยี่ยมในการป้องกันตัวในสังคมยุคปัจจุบัน


AMOK! ได้รับการยอมรับจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนในหลายประเทศเพื่อใช้ในการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน เช่น Russian Spetsnaz / Counter-Terrorism, South African Special Forces, United States Military, United States Federal Law Enforcement, Greek Coast Guard, New Zealand Prison Guards, Russian Karat Executive Protection Academy, Trainers of the Guardian Angels เป็นต้น


หลักสูตรของ AMOK! จะครอบคลุมทั้งการเตรียมตัวก่อนต่อสู้ (Pre-fight Planning) ขณะต่อสู้ (Fight Planning) และ หลังการต่อสู้ (Post-fight Planning)


ในการฝึกการต่อสู้ด้วยมีดซึ่งเป็นจุดเด่นของ AMOK! นั้น ผู้รับการฝึกจะได้เรียนรู้แนวทางและวิธีการฝึกตามรูปแบบของ AMOK! อย่างเป็นขั้นตอน โดยเน้นที่หลักการ (Principle) มากกว่าให้จำท่าทางเป็นการเฉพาะเจาะจง ผู้รับการฝึกจึงสามารถนำหลักการดังกล่าวไปปรับใช้กับการป้องกันตัวด้วยมือเปล่าและอาวุธชนิดอื่นได้อย่างไม่ยากเย็น


ทั่วโลกอาจมี AMOK! Trainer หลายคนแต่มีเพียง 9 คนที่อยู่ระดับกูรูซึ่ง Mr. Randy Hodges เป็นหนึ่งในนั้น จึงเป็นโอกาสอันดีที่ผู้รักการฝึกมีดเพื่อป้องกันตัวในประเทศไทยจะได้เก็บเกี่ยวความรู้จากหนึ่งในรูปแบบการใช้มีดที่มีประสิทธิภาพ...... AMOK!


เนื่องจากระยะเวลาที่ผมไปนั้นสั้นมากจึงถือว่าเป็นหลักสูตรเร่งลัด Mr. Randy และครู นก พยายามถ่ายทอดความรู้ให้อย่างเต็มที่ ทำให้เห็นรูปแบบและลักษณะเด่นของ AMOK! ได้อย่างชัดเจน อีกทั้งอัธยาศัยของทั้งสองท่านก็เป็นกันเอง ทำให้การฝึกไม่เครียดและราบลื่นอย่างมาก ปกติจะฝึก 4 ช.ม. ต่อวัน โดยแบ่งเป็นช่วงเช้า 2 ช.ม. กับช่วงบ่ายหรือเย็นอีก 2 ช.ม.


สำหรับใครซึ่งไม่ชำนาญภาษาอังกฤษก็ไม่ต้องกังวลไปเพราะครู นก จะช่วยแปลและอธิบายให้ตลอดการฝึกอบรม ที่บ้านของ Mr. Randy มีมีดซ้อมให้ใช้ แต่ควรเตรียมแว่นตานิรภัยไปด้วยและถ้าใครผิวหนังบอบบางก็ควรเตรียม Arm guard เพื่อป้องกันรอยเขียวช้ำที่ท่อนแขนจากการฝึก


ถ้าใครสงสัยว่าผู้หญิงสามารถใช้มีดต่อสู้ป้องกันตัวได้จริงหรือ เมื่อเห็นครู นก ใช้มีดให้ดูก็จะรู้คำตอบและจะประทับใจว่า มีดทำให้ผู้หญิงตัวเล็กๆสามารถเอาตัวรอดและต่อกรกับผู้ชายตัวใหญ่ๆได้


ผู้สนใจสามารถเดินทางไปฝึกที่บ้านพักของ Mr. Randy และครูนก เป็นการส่วนตัวหรือหมู่คณะ โดยติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ครู นก เกี่ยวกับรูปแบบการฝึก ที่พัก ค่าฝึกอบรม ทาง E-mail : amok_nok@hotmail.com ซึ่งการเดินทางโดยเครื่องบินจะใช้เวลาประมาณ 1 ช.ม. ทางรถไฟประมาณ 12 ช.ม. ทางรถยนต์ประมาณ 6 ช.ม. (ลูกศิษย์ของ Mr. Randy ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติซึ่งต้องบินข้ามน้ำข้ามทะเลมาเรียนกับเขา ดังนั้นผู้ที่อยู่เมืองไทยจึงถือว่าได้เปรียบอยู่มาก และ Mr. Randy กับครู นก ก็เต็มใจที่จะสอนคนไทยเช่นกัน)


นอกจากนั้นยังสามารถลงชื่อที่ Thai self-defense เพื่อรวบรวมสมาชิกให้ได้จำนวนหนึ่งเพื่อเดินทางไปรับการฝึกอบรมกับ Mr. Randy และครูนก ถือเป็น Knife training trip อย่างหนึ่ง


การได้เรียนรู้การใช้มีดในหลายๆระบบจะทำให้เราหูตากว้างไกล รู้ว่าตัวเองมีข้อดี ข้อด้อย ข้อจำกัดอย่างไร แล้วนำไปปรับปรุงแก้ไข จงเรียนรู้ต่อไปเรื่อยๆ อย่าได้หยุด (Keep learning)


สุดท้ายนี้ทุกครั้งที่จับมีดขอให้มี “สติ”


เรียบเรียงโดย Batman

Saturday, January 22, 2011

Biting for life

Biting for life



ในการต่อสู้ป้องกันตัวจากภัยคุกคามร้ายแรงนั้นเราต้องสามารถใช้อาวุธทุกอย่างที่เรามีให้เป็นประโยชน์ “การกัด (Biting)” เป็นอาวุธหนึ่งซึ่งติดตัวเราตลอดเวลาอยู่แล้ว สาเหตุที่ “กีฬา” การต่อสู้ทั่วไปห้ามนักกีฬาใช้การกัด เพราะมันเป็นสิ่งที่ป้องกันยาก อาจสร้างบาดแผลที่รุนแรงได้ส่งผลให้การต่อสู้สิ้นสุดลงอย่างรวดเร็ว


การกัดนั้นเป็นสัญชาติญาณอย่างหนึ่งของมนุษย์ เราเรียนรู้การกัดมาตั้งแต่เด็กๆ แต่ถูกสอนไม่ให้ใช้การกัดในการต่อสู้เนื่องจากผิดกติกาสากลของกีฬาต่อสู้ทั่วไป ดังนั้นเราจึงละเลยทักษะที่มีประโยชน์นี้ไปอย่างน่าเสียดาย


ในชีวิตจริงการต่อสู้ป้องกันตัวเพื่อเอาตัวรอดจากสถานการณ์ร้ายแรงนั้น มีกฎอยู่เพียงข้อเดียวเท่านั้น คือ ไม่มีกฎ เราต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองรอดพ้นออกจากสถานการณ์เลวร้ายให้ได้อย่างปลอดภัยหรือบาดเจ็บน้อยที่สุด กฎข้อบังคับที่กีฬาการต่อสู้ทั่วไปห้ามนั้นหลายสิ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากเมื่อนำมาใช้ในการป้องกันตัว


จงจำไว้ว่าเราสามารถ “กัด” อวัยวะทุกส่วนของคนร้ายได้ไม่ว่าจะมีเสื้อผ้าปกคลุมอยู่หรือไม่ก็ตาม เป็นหนึ่งในอาวุธที่เราไม่ควรมองข้ามและควรคิดถึงอยู่เสมอ การใช้สิ่งนี้ให้เป็นประโยชน์ ถูกที่ ถูกเวลา อาจสร้างความแตกต่างระหว่างความเป็นและความตายได้เลยทีเดียว


“การกัด” นั้นในหลักสูตรต่อสู้ป้องกันตัวทั่วโลกต่างยอมรับว่าเป็นสิ่งจำเป็นที่ผู้รับการฝึกต้องเรียนรู้ที่จะใช้มัน


สุดท้ายนี้ขอให้ตั้ง “สติ” ทุกครั้งเมื่อเผชิญเหตุ และขอให้ “พลังจงอยู่กับท่าน”

เรียบเรียงโดย Batman

Friday, January 14, 2011

OTF knives

OTF knives



มีดชนิดหนึ่งซึ่งเห็นได้บ่อยในหนังฮอลิวูดก็คือ มีดสปริงซึ่งใบมีดถูกดีดออกจากด้ามมีดทางปลายด้านหนึ่ง พวกแก๊งมิจฉาชีพในภาพยนตร์นิยมพกกัน เราเรียกมีดซึ่งเปิดลักษณะนี้ว่า OTF knives (Out-the-Front knives) หรือ Sliding knives หรือ Telescoping knives


OTF knives อาจแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ


- เปิดด้วยวิธีธรรมดา (Manual sliding knives): ใช้นิ้วมือในการเลื่อนปุ่มดันไปข้างหน้าหรือถอยหลังเพื่อเปิดและปิดใบมีดเองทุกครั้ง


- เปิดแบบอัตโนมัติ (Automatic OTF switchblade knives): กดปุ่มหรือเลื่อนปุ่มที่ด้ามมีดเพื่อให้กลไกในด้ามมีดทำการเปิด-ปิดใบมีด


- เปิดแบบใช้แรงโน้มถ่วง (Gravity knives): ใช้แรงโน้มถ่วงช่วยในการเปิดใบมีด โดยเฉพาะมีด Fallschirmjaeger-Messer (Jump knife) ซึ่งใช้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยทหารนาซีของเยอรมัน


ปัจจุบัน OTF knives ส่วนใหญ่เป็นแบบอัตโนมัติโดยเฉพาะที่ใช้สปริงช่วยในการเปิด-ปิดใบมีด (Spring assisted knives) นอกจากนั้นยังอาจแบ่ง OTF knives ออกตามการเปิด-ปิดมีดได้เป็น 2 กลุ่ม คือ Double action และ Single action


Double action นั้นเวลาเปิด-ปิดใบมีดอย่างอัตโนมัติจะใช้ปุ่มที่ด้ามมีดเป็นตัวควบคุม ส่วน Single action นั้นเวลาเปิดจะใช้ปุ่มบนด้ามมีดเพื่อเปิดอย่างอัตโนมัติ แต่เวลาปิดจะต้องปิดด้วยมือ (Manual)


Telescoping knives เช่น มีด Kershaw Ripcord นั้นจะมีลักษณะพิเศษในการเปิด-ปิดมีด โดยมีดนี้จะถูกยึดติดไว้กับ Clip belt หรือซองมีดเหน็บไว้ที่เอว ซึ่งภายในซองมีดหรือที่ตัว Clip belt จะมีปุ่ม (a stud) สำหรับยึดใบมีดไว้ โดยมีช่องที่ด้าม (Receiver) รองรับไว้อยู่ เมื่อเลื่อนมีดออกจาก Clip belt จะทำให้ใบมีดเคลื่อนออกมาพร้อมใช้งาน เวลาจะเก็บมีดก็ต้องเอาปุ่มนี้ไปใส่ในช่อง Receiver ของด้ามมีดให้ถูกต้องเพื่อเลื่อนใบมีดลงเก็บในตัวด้าม


ใบมีดของ OTF knives นั้นมีทั้งแบบคมด้านเดียวและคมสองด้าน เป็นใบเรียบทั้งใบ ใบกึ่งหยัก หรือใบหยักทั้งหมด มีให้เลือกตามความชอบและลักษณะการใช้งาน


คุณภาพของมีดเหล่านี้ขึ้นกับเหล็กที่ใช้ทำใบมีด ความน่าเชื่อถือของระบบกลไกการทำงาน ระบบล็อกใบมีด วัสดุที่ใช้ทำด้ามมีด ยี่ห้อที่นิยม เช่น Microtech, Benchmade เป็นต้น มีดอัตโนมัติเหล่านี้เป็นหนึ่งในมีดซึ่งสามารถเปิด-ปิดได้ด้วยมือเดียว พกพาสะดวก แต่ควรระมัดระวังขณะพกพาอาจมีการกระแทกถูกปุ่มเปิดมีดโดยไม่ตั้งใจได้


สุดท้ายนี้ทุกครั้งที่จับมีดขอให้มี “สติ”


เรียบเรียงโดย Batman
อ้างอิงเนื้อหาบางส่วนจากบทความเรื่อง Sliding knives ของ Wikipedia, Kershaw-knives.net

Friday, January 7, 2011

อาวุธโดยสภาพ

อาวุธโดยสภาพ


คำถามน่าสนใจที่ว่า อุปกรณ์ใดจัดเป็นอาวุธโดยสภาพหรือเยี่ยงอาวุธ สายตากฎหมายแยกแยะสิ่งของใดเป็นอาวุธหรือไม่โดยกฎหมายบัญญัติชัดแจ้งหรือตามสภาพของมัน จึงมีสิ่งของหลายอย่างที่ไม่ได้เขียนระบุชัดว่า นี่คืออาวุธ เราต้องเรียนรู้จากคำพิพากษาของศาลว่าผู้ตัดสินมองสิ่งของนั้นว่าเป็นอะไร บางอย่างจึงอาจไม่ได้ถูกระบุให้ชัดเจนเป็นอาวุธเพราะยังไม่มีการตัดสินเกี่ยวกับการใช้มันมาก่อน ทำให้ต้องใช้ข้อสังเกตพื้นฐานง่ายๆเป็นหลัก


อาวุธโดยสภาพที่กฎหมายระบุชัด เช่น ปืน วัตถุระเบิด สิ่งเทียมอาวุธปืน เป็นต้น มันมีกฎหมายเฉพาะเขียนว่า ปืนเป็นอาวุธเพราะถูกสร้างขึ้นด้วยจุดประสงค์คือ การฆ่า ทำร้าย ทำลาย คน สัตว์ สิ่งของ เป็นหลัก ขอย้ำว่า สร้างปืนขึ้นเพื่อจุดประสงค์นั้น เมื่อให้นิยามแก่ปืนไว้เช่นนี้ ส่งผลให้สิ่งของที่ทำงานเยี่ยงเดียวกับปืน เช่น ปืนปากกา ปืนไทยประดิษฐ์ และสิ่งของที่สร้างโดยอาศัยหลักเดียวกับปืน เป็นต้น ถูกจัดเป็นอาวุธหรือสิ่งเทียมอาวุธทั้งสิ้น ผู้ครอบครองหรือผู้ใช้ต้องทำตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด หากทำละเมิดจะได้รับการลงโทษค่อนข้างแรงเพราะสังคมมองว่าปืน วัตถุระเบิด สิ่งเทียมอาวุธปืน เป็นอันตรายต่อผู้อื่น ต่อสังคม


อุปกรณ์อีกหลายอย่างที่มีความสามารถทำร้าย ฆ่า ทำลาย ผู้อื่นหรือทรัพย์สินได้ เช่น มีด ดิ้วหรือกระบองสั้น ไม้ตะพด เชือก และอื่นๆ มิได้มีกฎหมายควบคุมเฉพาะ แต่จะใช้ลงโทษฐานใช้อาวุธได้ต่อเมื่อมีการใช้มันทำร้าย ฆ่า ทำลาย ผู้อื่นหรือทรัพย์สินเสียก่อน เนื่องจากบางอุปกรณ์สามารถทำงานได้หลายอย่างในชีวิตประจำวัน มิได้สร้างขึ้นเพื่อจุดประสงค์หลักเดียวกับปืน คือ มิได้เน้นใช้ฆ่า ทำลาย ทำร้าย กฎหมายจึงไม่เข้มงวดกับอุปกรณ์เหล่านั้น ยกเว้นนำไปใช้ฆ่า ทำร้าย ทำลาย ผู้อื่นหรือทรัพย์สิน จึงถือว่ามันเป็นอาวุธ


การแยกแยะอาวุธโดยสภาพหรือใช้เยี่ยงอาวุธนั้น ดูที่จุดประสงค์ที่สร้างมันหรือเป็นธรรมชาติของมัน ตัวอย่างที่เห็นชัดคือ ปืนถูกสร้างเพื่อการฆ่า ทำร้าย ทำลายล้าง เป็นหลัก ถือเป็นอาวุธโดยสภาพ แต่ท่อนไม้มะม่วงเมื่อตีหัวของคนอื่นจะไม่ถือว่าใช้อาวุธ เพราะท่อนไม้มะม่วงมาจากธรรมชาติ ยังไม่ได้ดัดแปลงเพื่อใช้ทำร้ายคนอื่น ส่วนกรณีดิ้วหรือกระบองสั้นซึ่งถูกสร้างขึ้นจากท่อนไม้บ้าง โลหะบ้าง มีการขัดเกลา ปรับแต่ง เพื่อการใช้ทำร้ายผู้อื่นเป็นหลัก ถือเป็นอาวุธโดยสภาพ แต่ไม่มีกฎหมายควบคุมเฉพาะไว้ จึงเห็นพนักงานรักษาความปลอดภัยติดกายทำงานกันแต่ไม่ใส่อวดในที่สาธารณะ เนื่องจากมีกฎหมายควบคุมการพกพาอาวุธทุกชนิดไว้และผู้ใช้มันทำร้ายผู้อื่นก็ต้องรับผิดชอบตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง


ส่วนกรณีที่บางคนบอกว่าพกกระบองสั้นเหน็บเอวมักถูกตำรวจเรียกไปเตือนบ้าง ยึดบ้าง ก็เป็นการเตือนเพื่อมิให้เกิดเรื่องทีหลังเมื่อใช้มันด้วยโทสะ เนื่องจากมันเป็นอาวุธโดยสภาพเพราะการปรับแต่งใหม่ มิใช่มาจากธรรมชาติโดยแท้ ทำให้มีอันตรายสูงขึ้น ถ้าให้พกพาเปิดเผย น่าจะให้โทษต่อสังคมมากกว่าเก็บไว้ให้พ้นสายตา ตำรวจจะยึดดิ้ว กระบองสั้น มีดโบวี่ โดยอาศัยกฎหมายอาญาหมวดลหุโทษที่ห้ามพกอาวุธในที่สาธารณะ เป็นไปตามหลักประเมินว่าเป็นอาวุธหรือไม่อยู่ที่จุดประสงค์ในการสร้างมัน ส่วนคำถามว่า มีดคัตเตอร์ เป็นอาวุธโดยสภาพหรือไม่ คำตอบคือ มันถือเป็นอาวุธเมื่อใช้มันเพื่อทำร้ายคนอื่น มิใช่เพื่อใช้ตัดกระดาษทำงานฝีมือ การพกคัตเตอร์ติดกระเป๋าไว้จึงไม่ถูกจับขังคุก ถ้าใช้มันปาดคอของคนอื่น ก็ถือเป็นอาวุธ ขึ้นอยู่กับเจตนาการใช้เพราะโดยสภาพแล้วมันคืออาวุธ

อุปกรณ์ที่มนุษย์สร้างขึ้นหลากวัตถุประสงค์ล้วนใช้เป็นอาวุธเพื่อทำร้าย ทำลาย ชีวิตของคนอื่นได้ทุกเวลา ขึ้นอยู่กับคนใช้มีสติควบคุมการใช้มันให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการสร้างหรือไม่ อีกทั้งต้องใช้ไม่เกินขอบเขตอันควรที่กฎหมายยอมรับ ก็ช่วยให้ห่างคุกได้แล้ว

เรียบเรียงโดย Black Cuff

การฝึกอบรม SELF-DEFENSE WITH A KNIFE

การฝึกอบรม SELF-DEFENSE WITH A KNIFE



เปิดรับการฝึกอบรมการป้องกันตัวด้วยอาวุธ “มีด” สำหรับประชาชนทั่วไป


จุดประสงค์ เพื่อเพิ่มพูนความรู้และทักษะการป้องกันตัวด้วยอาวุธ “มีด” ให้กับประชาชนทั่วไป


เนื้อหาการฝึกอบรม (การบรรยายและปฏิบัติ)


- หลักการป้องกันตัวและการประเมินสถานการณ์


- ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับอาวุธมีด


- การถือมีด (Knife griping) ท่าเตรียมพร้อม (Fighting stance)


- พื้นฐานรูปแบบและทิศทางการโจมตีด้วยมีด (Basic patterns and directions of knife attack)


- การเคลื่อนที่ (Footwork)


- กลยุทธ์การป้องกันตัวด้วยมีด (Strategy of self-defense with a knife)


- การฝึกซ้อมการป้องกันตัวด้วยมีด (Knife sparring and drill)


ระยะเวลาการฝึกอบรม วันจันทร์ - พฤหัส เวลา 18.00-20.00 น., วันศุกร์ - เสาร์ เวลา 13.00 - 20.00 น., วันอาทิตย์ เวลา 16.00 – 20.00น.(จะโทรยืนยันวันฝึกที่แน่นอนอีกครั้ง)


ผู้รับการฝึกอบรม หญิงหรือชาย อายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป (ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ ต้องมีผู้ปกครองยินยอม) รับจำนวนจำกัด


สถานที่ ห้อง 512 ชั้น 5 บ้านราชา เลขที่ 88/8 ถ. อ่อนนุช-ลาดกระบัง ซอย 14/1 แยก ราชา 3 แขวง ราชาเทวะ อ. บางพลี จ. สมุทรปราการ (ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ) มีที่จอดรถ


แผนที่


GPS N 13-42-936, E 100-42-953


ค่าฝึกอบรม 600 บาท/ช.ม./ท่าน (เรียนส่วนตัว), 500 บาท/ช.ม./ท่าน (เรียนกลุ่มย่อยตั้งแต่ 2 ท่านขึ้นไป)


การแต่งกาย เสื้อยืด กางเกงวอร์ม หรือ แต่งกายรัดกุม


อุปกรณ์เพื่อความปลอดภัย แว่นตานิรภัย (ถ้ามี), มีดซ้อม (ถ้ามี), Arm guard (ถ้ามี), ถุงมือ (ถ้ามี)


เอกสารประกอบการสมัคร ใบสมัคร, สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน 1 ใบ, ใบยินยอมจากผู้ปกครอง (ในกรณีผู้รับการฝึกอายุต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์)


ครูฝึก ครู วีระ (Batman)


ติดต่อ ครู วีระ (Batman) โทร. 081-666-0266, Fax. 02-349-6207


e-mail : thaiselfdefense@gmail.com



www.thaiselfdefense.com

Easy Defense Studio

Easy Defense Studio



สถานที่เรียน การป้องกันตัว (Self-defense) และศิลปะมวยไทยไชยาในห้องเรียนติดแอร์ สำหรับเยาวชนและสุภาพชนทั่วไป


ตั้งอยู่ที่ ชั้น 3 ร้านขอขวัญ เลขที่ 102/24 ซอย พัฒนาการ 58 เยื้อง ร.ร. เตรียมพัฒนาการ เขต สวนหลวง กรุงเทพฯ 10250


GPS: N 13-43.832 E 100-38.871


สอบถามรายละเอียดที่ ครูเจี๊ยบ โทร. 081-911-8945


วิชาที่เปิดสอน


จันทร์ 14.30-16.00 น. Self-defense ครูเดช


16.30-18.00 น. Self-defense ครูเดช


อังคาร 14.30-16.00 น. มวยไทยไชยา ครูไกรทอง

16.30-18.00 น. มวยไทยไชยา ครูไกรทอง

พุธ 14.30-16.00 น. Self-defense ครูเดช


16.30-18.00 น. Self-defense ครูเดช


พฤหัส 14.30-16.00 น. มวยไทยไชยา ครูไกรทอง

16.30-18.00 น. มวยไทยไชยา ครูไกรทอง

ศุกร์ 14.30-16.00 น. Self-defense ครูเจี๊ยบ, ครูเดช

 
16.30-18.00 น. มวยไทยไชยา ครูไกรทอง

เสาร์ 10.00-12.00 น. Knife defense ครูเดช


13.00-15.00 น. Knife defense ครูเดช


อาทิตย์ 10.00-12.00 น. Knife defense ครูเจี๊ยบ, ครูเดช


13.00-15.00 น. Knife defense ครูเจี๊ยบ, ครูเดช


หมายเหตุ Self-defense : การป้องกันตัว, Knife defense : การป้องกันตัวจากอาวุธมีด


ค่าฝึกอบรม :


ทุกวิชา ครั้งละ 300 บาท ต่อ 1 ช.ม. 30 นาที


คอร์สละ 3000 บาท ต่อ 10 ครั้ง, 5000 บาท ต่อ 10 ครั้ง สำหรับศิลปะการป้องกันตัวด้วยอาวุธมีด


คุณสมบัติผู้รับการฝึกอบรม : มาสมัครด้วยตนเอง, เป็นผู้มีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัวซึ่งอาจเป็นอุปสรรคต่อการฝึกอบรม, ผู้ที่อายุต่ำกว่า 18 ปี ต้องมีผู้ปกครองยินยอม


Self-defense อายุตั้งแต่ 12 ปี ขึ้นไป


Knife defense อายุตั้งแต่ 15 ปี ขึ้นไป


มวยไทยไชยา อายุตั้งแต่ 12 ปี ขึ้นไป

Saturday, January 1, 2011

สวัสดีปีใหม่ 2011

สวัสดีปีใหม่ 2011



ขอให้ผู้อ่านทุกท่านและครอบครัว


- ประสบแต่ความสุขความเจริญในปีใหม่นี้


- สุขภาพแข็งแรง


- ใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาท


- อย่าได้มีภัยพาล


Batman
 

Samsung LCD televisions