Friday, December 23, 2011

2 nd Anniversary


2 nd Anniversary

Thai self-defense ได้ให้ความรู้กับประชาชนในเรื่องการป้องกันตัว (Self-defense) มาจนครบ 2 ปี และก้าวเข้าสู่ปีที่ 3 อย่างมั่นคง

ตลอดเวลาที่ผ่านมาได้ให้ความรู้ผ่านทางเว็บไซด์และการฝึกอบรมให้กับประชาชนอย่างสม่ำเสมอ สำหรับสังคมไทยซึ่งมีความตื่นตัวน้อยเกี่ยวกับการป้องกันตัว อีกทั้งมีแหล่งความรู้และสถานที่ฝึกอบรมการป้องกันตัวโดยตรงไม่มากนัก Thai self-defense จึงเป็นอีกหนึ่งแหล่งซึ่งประชาชนสามารถเข้าถึงได้

จุดมุ่งหมายสำคัญอย่างหนึ่งของ Thai self-defense ก็คือ การสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องในเรื่องการฝึกอบรมการป้องกันตัว (Self-defense) กับ การฝึกศิลปะการต่อสู้ (Martial Arts) ถึงแม้เนื้อหาหลายส่วนจะเกี่ยวพันและสัมพันธ์กันอยู่ แต่ก็มีความแตกต่างกันในหลายมิติ

ในความคิดของคนส่วนใหญ่เมื่อพูดถึงการป้องกันตัวก็มักจะคิดถึง ศิลปะการต่อสู้ (Martial Arts) เช่น Taekwondo Judo Jujitsu Aikido เป็นต้น แต่ในต่างประเทศประชาชนจะทราบว่าการป้องกันตัวเป็นศาสตร์ของการประยุกต์ใช้ประโยชน์จาก Martial Arts หลายแขนง นำมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ เพราะภัยคุกคามภาคประชาชนมีความหลากหลาย มีอาวุธหลายประเภทเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งหากเรียน Martial Arts เพียงสาขาใดสาขาหนึ่งจะไม่สามารถเอาตัวรอดได้ในสถานการณ์ส่วนใหญ่

โดยส่วนตัวแล้วเป็นคนที่ยิงปืนมานาน ได้มีโอกาสฝึกฝนการใช้อาวุธมีดเพื่อป้องกันตัวและสนใจในรูปแบบการป้องกันตัวด้วยมือเปล่าที่เป็นสากล เล็งเห็นว่าความรู้เหล่านี้ในต่างประเทศมีการสอนและฝึกให้กับประชาชนอย่างกว้างขวาง แต่สำหรับประเทศไทยแล้วกลับไม่พบว่ามีการสอนอย่างเป็นระบบที่ชัดเจน อีกทั้งทัศนคติเกี่ยวกับการป้องกันตัวของประชาชนก็ยังไม่ถูกต้อง จึงอาศัย Thai self-defense เป็นช่องทางเผยแพร่ความรู้

อย่างไรก็ตามเนื่องจากเว็บไซด์เป็นพื้นที่สาธารณะไม่สามารถควบคุมได้ว่าผู้อ่านเป็นใคร เป็นคนดีหรือคนร้าย ดังนั้นเนื้อหาที่ลงใน Thai self-defense จึงมุ่งเน้นที่หลักการมากกว่ารายละเอียด ผู้อ่านบางท่านอาจรู้สึกว่าเนื้อหาไม่เข้มข้น ก็คงต้องขอให้เข้าใจว่ามีข้อจำกัดดังกล่าว หากสนใจความรู้ในเชิงลึกก็สามารถติดต่อพูดคุยกันได้

ในสังคมปัจจุบันภัยคุกคามต่อชีวิตและทรัพย์สินของท่านและบุคคลที่ท่านรักมีมากขึ้นเรื่อยๆ สังคมไทยมีความแตกแยกทางความคิดและใช้อารมณ์เข้ามาตัดสินปัญหามากขึ้น ทำให้พบเห็นการก่ออาชญากรรมเพิ่มขึ้นทุกวัน ในขณะที่เจ้าหน้าที่ของรัฐก็ไม่สามารถดูแลได้อย่างทั่วถึง สุจริตชนจึงควรหาความรู้และฝึกฝนการป้องกันตัวเอาไว้เพื่อให้รอดพ้นจากภัยคุกคามในสังคม

สุดท้ายนี้อย่าคิดว่าเรื่องร้ายๆจะไม่เกิดกับท่าน เพราะเหยื่อของอาชญากรรมเหล่านั้นก็เคยคิดเช่นนี้มาก่อน ดังนั้นจึงควรเตรียมตัวให้พร้อมรับสถานการณ์ร้ายแรงไว้เสมอ ดังคำกล่าวที่ว่า เตรียมตัวให้พร้อมเพื่อเผชิญสิ่งที่แย่ที่สุด แต่คาดหวังไว้สำหรับสิ่งที่ดีที่สุด (Prepare for the Worst, but Hope for the Best)
                                                                                    เรียบเรียงโดย Batman

สิ่งที่หนัง, ละคร หลอกคุณ


สิ่งที่หนัง, ละคร หลอกคุณ

ใครเป็นแฟนหนัง, ละครบู๊แอ็คชั่นอย่างเหนี่ยวแน่นยิ่งมีดารานำที่เราชื่นชอบ ยิ่งต้องติดตามดูไม่ให้คลาดแม้สักตอนเดียว ด้วยเหตุที่เราติดตามดูด้วยความพอใจในตัวดาราเป็นหลัก เราอาจไม่ทันฉุกคิดว่าเหตุการณ์ในหนังหรือละครนั้น มีหลายกรณีที่มันไม่อาจทำได้หรือเกิดขึ้นได้ในชีวิตจริง ขอยกตัวอย่างให้ลองพิจารณาดู

1.      เสือเมฆค่อยๆย่องไปตามแนวต้นไม้ สายตาสอดส่ายไปมาอย่างระแวดระวัง ไอ้หาญมันอยู่ไหนนะ เสือเมฆคิด หยุดตรงนั้นแหละ! เสียงไอ้หาญดังขึ้นด้านหลัง เสือเมฆชะงัก มันค่อยๆเอี้ยวตัวมองย้อนไป ไอ้หารถือปืนลูกซอง เล็งตรงมาระยะห่าง 7 10 เมตร ทิ้งปืน! แล้วค่อยๆหันมา... อย่าตุกติก หาญสั่งเสียงดัง เสือเมฆกระชับปืนในมือแน่น หมุนตัวกลับอย่างรวดเร็ว ลั่นกระสุนไปสองนัด ปัง! ปัง! ไอ้หาญค่อยๆทรุดลง... ความจริง ถูกจี้ดวยปืนลูกซองในระยะ 5 เมตรขึ้นไปเป็นเรื่องที่อันตรายที่สุด ต่อให้ถือปืนในมือประจันหน้ากันก็ยกขึ้นยิงไม่ทันแน่นอน อย่าว่าแต่ต้องหมุนตัวกลับไปยิง ซึ่งต้องใช้เวลามากขึ้นอีก อย่าพยายามวัดดวงกับปืนลูกซองในระยะห่างเกินกว่ามือเอื้อมถึงเป็นอันขาด

2.      ซาร่ายืนเผชิญหน้ากับจอร์จในระยะใกล้ ในมือจอร์จมีปืนออโตเมติก .45 ขึ้นมาพร้อมเล็งตรงมาที่หล่อน จอร์จจ้องตาซาร่าอย่างชิงชัง ซาร่ายิ้มอย่างท้าทาย “ปืนแกไม่มีประโยชน์หรอก” ทันใดนั้นซาร่าใช้มือปัดปืนของจอร์จให้พ้นไป แล้วยกเท้าเตะระหว่างขาอย่างแม่นยำ จอร์จทรุดลงนอนด้วยอาการจุกเสียด ซาร่าวิ่งพ้นสายตาไป เขายังนอนดิ้นอยู่กับพื้น ความจริง เมื่อถูกปืนจอร์จจี้ในระยะใกล้ การปัดป้องปืนที่ขึ้นนกพร้อมอย่างกระทันหันเป็นเรื่องยากและมีความเสี่ยง ยิ่งการเตะระหว่างขาหวังจะสร้างอาการจุกเสียดจนหมดแรงจนไม่อาจเหนี่ยวไกปืน เรื่องนี้ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าไม่จริง การเตะระหว่างขาไม่สร้างผลกระทบต่อกล้ามเนื้อที่ใช้เหนี่ยวไกปืน ใครดูหนังแล้วทำตามมีโอกาสตายมากกว่ารอด

3.      ทอมกับเจอรี่ ต่างสาดกระสุนเข้าใส่กันอย่างดุเดือด ปัง! ปัง! ปัง! กิ่งไม้รอบตัวทอมกระจุยกระจายด้วยแรงกระสุน เขายกปืนขึ้นยิงสวนไป ปัง! ปัง! แชะ... กระสุนหมด เจอรี่ยิ้ม เล็งปืนมาที่ทอม เดินเข้าใกล้อย่างย่ามใจ “ลาก่อน ทอม” แต่มัน...ช้าไป มีดจากมือทอมพุ่งเข้าปักกลางอก เจอรี่ชะงักค้างพยายามเหนี่ยวไกแต่ไม่มีแรงร่างทรุดลงกับพื้น... ความจริง การขว้างมีดให้ได้แรงและแม่นยำ ต้องมีการเตรียมตัว จัดท่าทางและกะระยะอย่างพิถีพิถัน โอกาสยากมากที่จะชิงจังหวะขว้างมีดเข้าเป้าก่อนปืน อีกทั้งการที่ใครสักคนถูกมีดขว้างปักร่างแล้วชะงักงัน ไม่มีแรงแม้จะเหนี่ยวไกปืน เป็นจินตนาการของคนเขียนบทและผู้กำกับ เพราะมีดไม่เหมือนกระสุนปืนที่มีความเร็วสูงกว่ากันมาก เมื่อกระสุนกระทบร่างกระสุนปืนจะถ่ายเทพลังงานที่แฝงมาทั้งหมดให้กับอวัยวะภายใน ทำให้ผู้ถูกกระสุนมีอาการชะงักงันหรือหมดสติชั่วคราว แต่อาการอย่างนี้จะไม่เกิดจากมีด ฉะนั้นใครที่เรียนการขว้างมีดแล้วใช้มีดขว้างในสถานการณ์คับขันเพื่อหวังหยุดยั้งคู่ต่อสู้ อาจต้องเสียชีวิตก่อนที่คู่ต่อสู้จะรู้ตัวว่าถูกมีดด้วยซ้ำ

ยกตัวอย่างมาบางกรณี เพื่อให้พวกเราฉุกคิดว่าหนังละครสร้างมาเพื่อให้เราดูสนุก บางครั้งมีฉากที่หลอกตาหรือเหนือจริง เราต้องรู้เท่าทัน

“หลีกเลี่ยงได้คือชนะ เข้าปะทะมีแต่แพ้”
                                                                                                            เรียบเรียงโดย Snap shot

Friday, December 9, 2011

Easy Defense Studio

Tuesday, December 6, 2011

Knife Disarm Tactics


Knife Disarm Tactics

อาวุธมีดถือเป็นภัยคุกคามที่พบบ่อยที่สุด เนื่องจากเป็นอาวุธที่หาง่ายและราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับอาวุธปืน มีดที่ใช้ก่อเหตุอาจเป็นเพียงแค่มีดปลอกผลไม้ มีดทำครัวหรือแม้แต่คัตเตอร์ทั่วไปก็ได้ ไม่จำเป็นจะต้องเป็นมีดต่อสู้ (Combat knife) ราคาแพงๆเสมอไป

หากประชาชนทั่วไปมีความรู้เกี่ยวกับการปลดอาวุธมีด จะเพิ่มโอกาสรอดหรือลดความเสียหายจากภัยคุกคามได้มากขึ้น

ภัยคุกคามจากมีดจะมีอยู่สองลักษณะ คือ ขณะที่มีดหยุดนิ่ง (Static) เช่น การถูกจี้ด้วยมีด และขณะที่มีดมีการเคลื่อนไหว (Dynamic) เช่น ขณะถูกทำร้ายด้วยมีดไม่ว่าจะเป็นการฟันหรือแทง

มีวิธีการปลดอาวุธมีด (Knife Disarm Tactics) ในทั้งสองสถานการณ์ แต่การปลดอาวุธมีดในขณะที่ถูกมีดจี้นั้นมีโอกาสประสบผลสำเร็จมากกว่า ข้อได้เปรียบอย่างหนึ่งของการปลดอาวุธไม่ว่าจะเป็นมีดหรือปืนขณะถูกจี้ ก็คือ เรารู้ว่าตัวเราจะปลดอาวุธของคนร้ายเมื่อใด แต่คนร้ายไม่รู้ว่าจะถูกปลดอาวุธเมื่อไร

ในการฝึกการป้องกันตัว (Self-defense) จะมีการสอนการปลดอาวุธมีดด้วยมือเปล่าในขณะที่ถูกจี้ในหลายลักษณะ ไม่ว่าจะเป็นการถูกจี้จากด้านหน้า ด้านข้าง หรือด้านหลัง โดยอาศัยวิธีที่เรียบง่ายมีประสิทธิภาพ ควรหลีกเลี่ยงวิธีที่ซับซ้อน ถึงแม้อาจดูสวยงามแต่เป็นการยากที่จะจดจำและทำตามได้อย่างถูกต้อง

ในสถานการณ์ที่ถูกทำร้ายด้วยอาวุธมีดไม่ว่าจะเป็นการถูกฟันหรือแทง จะเป็นการยากมากที่จะปลดอาวุธมีดด้วยมือเปล่า ถึงแม้จะมีการสอนกันอย่างกว้างขวางและดูน่าทึ่ง เพราะการโจมตีด้วยอาวุธมีดมีความรวดเร็วและไหลลื่นอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อมีดอยู่ในมือของผู้ที่ชำนาญหรือได้รับการฝึกฝนมา

โดยส่วนตัวเมื่อต้องเผชิญกับอาวุธมีดที่เข้ามาทำร้าย หลังจากป้องปัดและหลบหลีกออกมาได้ ให้รีบมองหาวัตถุรอบตัวที่สามารถนำมาใช้เป็นอาวุธหรือสิ่งป้องกันตัวจากคมมีดมาถือไว้ในมือ เช่น เก้าอี้ สมุด กระเป๋า เป็นต้น และถ้าหนีได้ให้รีบหนี

หากจำเป็นต้องป้องกันตัวด้วยมือเปล่าจริงๆ จะไม่พยายามไปปลดอาวุธมีดของคนร้าย แต่จะควบคุมมือหรือแขนข้างที่ถืออาวุธของคนร้ายไม่ให้มีโอกาสทำร้ายเราได้ ซึ่งมีวิธีทำที่ง่ายและปลอดภัยกว่า อีกทั้งพยายามทำให้คนร้ายหมดความสามารถที่จะเป็นภัยคุกคาม ส่วนจะปลดอาวุธมีดก็ต่อเมื่อสถานการณ์ทุกอย่างอยู่ในการควบคุมแล้วหรือในจังหวะที่สามารถทำได้โดยง่ายจริงๆ

แต่หากเรามีอาวุธในมือ ไม่ว่าจะเป็น ไม้ มีด หรือวัตถุอื่นใด การปลดอาวุธมีดในมือคนร้ายอาจเกิดขึ้นได้ในหลายจังหวะ ไม่ว่าจะเป็นการทำ Defanging the snake (อ่านเพิ่มเติมได้ในบทความเรื่อง Defanging the snake วันที่ 4 June 10) หรือใช้วิธีเฉพาะสำหรับอาวุธที่เรามีในมือ

การเรียนรู้การปลดอาวุธมีดจะทำได้ดีก็ต่อเมื่อรู้ว่ามีดนั้นสามารถเข้ามาทำร้ายเราในรูปแบบใดได้บ้าง การเตรียมตัวและเรียนรู้วิธีการจัดการกับภัยคุกคามจากอาวุธมีดเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งทักษะนี้อาจสร้างความแตกต่างระหว่างความเป็นและความตายได้เลยทีเดียว

สุดท้ายนี้ขอให้ตั้ง “สติ” ทุกครั้งเมื่อเผชิญเหตุ และขอให้ “พลังจงอยู่กับท่าน”


                                                                                                            เรียบเรียงโดย Batman

Thai Self-defense Training


Thai Self-defense เปิดรับการฝึกอบรมการป้องกันตัวด้วยอาวุธ “มีด” สำหรับประชาชนทั่วไป

จุดประสงค์       เพื่อเพิ่มพูนความรู้และทักษะการป้องกันตัวด้วยอาวุธ “มีด” ให้กับประชาชนทั่วไป

เนื้อหาการฝึกอบรม (การบรรยายและปฏิบัติ)

-          หลักการป้องกันตัวและการประเมินสถานการณ์

-          ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับอาวุธมีด

-          การถือมีด (Knife griping) ท่าเตรียมพร้อม (Fighting stance)

-          พื้นฐานรูปแบบและทิศทางการโจมตีด้วยมีด (Basic patterns and directions of knife attack)

-          การเคลื่อนที่ (Footwork)

-          กลยุทธ์การป้องกันตัวด้วยมีด (Strategy of self-defense with a knife)

-          การฝึกซ้อมการป้องกันตัวด้วยมีด (Knife sparring and drill)

ระยะเวลาการฝึกอบรม             วันจันทร์ – พฤหัส เวลา 18.00 – 20.00 น. วันศุกร์ วันอาทิตย์ เวลา 13.00 – 20.00 น. (จะโทรยืนยันวันฝึกที่แน่นอนอีกครั้ง)

ผู้รับการฝึกอบรม          หญิงหรือชาย อายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป (ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ ต้องมีผู้ปกครองยินยอม) รับจำนวนจำกัด
GPS        N 13-43.832  E 100-38.871
ค่าฝึกอบรม       600 บาท/ช.ม./ท่าน (เรียนส่วนตัว), 500 บาท/ช.ม./ท่าน (เรียนเป็นกลุ่มย่อยตั้งแต่ 2 ท่าน ขึ้นไป)
การแต่งกาย      เสื้อยืด กางเกงวอร์ม หรือ แต่งกายรัดกุม
อุปกรณ์เพื่อความปลอดภัย       แว่นตานิรภัย (ถ้ามี), มีดซ้อม (ถ้ามี), Arm guard (ถ้ามี), ถุงมือ (ถ้ามี)
เอกสารประกอบการสมัคร        ใบสมัคร, สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน 1 ใบ, ใบยินยอมจากผู้ปกครอง (ในกรณีผู้รับการฝึกอายุต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์)
ครูฝึก    ครู วีระ (Batman)

 

Samsung LCD televisions