Friday, November 19, 2010

ฟันโจร ติดคุกได้

ฟันโจร ติดคุกได้



คดีเจ้าของบ่อปลาดักฟันคอโจรขาดขณะลอดช่องรั้วไม้เข้าไปขโมยปลาในบ่อ ศาลลงโทษจำคุกเจ้าของปลา โจรคนนั้นเคยขโมยปลาไปหลายครั้งแล้ว แต่ขาดหลักฐานจับโจรได้คาตา เจ้าของปลาจึงแค้นใจมากแล้ววางแผนฆ่าโจร หลายคนสงสัยว่าทำไมศาลจึงลงโทษผู้เสียหายทั้งที่เขากระทำต่อโจร เราจะมารู้มุมมองของสายตากฎหมายต่อการกระทำต่อโจรของผู้เสียหายกัน


ความเชื่อที่ผิดพลาดของผู้เสียหายคือ ใช้อาวุธต่อโจร แล้วไม่ติดคุกแน่ ขอให้พึงสังวรไว้ว่า สายตากฎหมายมองผู้ใช้อาวุธเหมือนกันหมด คือ เป็นบุคคลอันตรายและรู้ถึงศักยภาพของอาวุธดี ทุกครั้งที่ใช้อาวุธจักต้องมีความรับผิดชอบเสมอ แม้กฎหมายจะมีข้อยกเว้นไม่ต้องรับโทษสำหรับองค์ประกอบพิเศษเมื่อใช้อาวุธเพื่อป้องกันชีวิตตัวเองก็ตาม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้ตัดสินเป็นหลัก


การป้องกันตัวเองโดยใช้อาวุธนั้น ถ้าไม่เกินสมควรแก่เหตุ กฎหมายถือว่าการกระทำนั้นไม่มีความผิด ก็ไม่ต้องรับโทษ ตัวอย่างเช่น โจรใช้มีดไล่แทงผู้เสียหายซึ่งก็ใช้มีดแทงโจรตาย ถ้าพฤติกรรมประกอบชี้ได้ว่า ผู้เสียหายทำเพื่อป้องกันตัว มิใช่มีแค้นส่วนตัวหรือมีการวางแผนล่วงหน้าอำพรางคดี ก็เรียกได้ว่า การแทงโจรตายเป็นการกระทำพอสมควรแก่เหตุที่จะไม่ถือเป็นความผิดอาญาได้


พฤติการณ์อย่างใดที่มองว่าเป็นการทำพอสมควรแก่เหตุ ไม่มีลักษณะที่ชัดเจน แต่ใช้ข้อเท็จจริงในคดีเป็นหลักพิจารณา อาทิเช่น ผู้เสียหายต่อสู้แย่งมีดจากโจรที่ถือมีดหรือมีปืน แล้วผู้เสียหายแทงโจรตาย 1-2 ครั้งที่ท้องหรือหน้าอก ศาลอาจมองว่าการกระทำนี้ถือเป็นการป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย เป็นต้น การเทียบอาวุธระหว่างผู้เสียหายกับโจรก็มีส่วนสำคัญในการพิจารณาหาระดับป้องกันตัวหรือไม่ด้วย เช่น โจรมีมีด ผู้เสียหายมีปืนสั้นหรือปืน M16 และยังเคยเข้าคอร์สฝึกยิงปืน เมื่อเจอโจรก็ระดมยิงโจรเป็นสิบนัด ศาลอาจมองว่านี่เป็นการป้องกันตัวที่เกินสมควรแก่เหตุก็ได้ เนื่องจากผู้เสียหายรู้จักควบคุมปืน จึงรู้ว่าน่าจะหยุดโจรด้วยกระสุนกี่นัดและไม่ควรเจาะจงฆ่าโจรด้วยปืน เป็นต้น ในสายตากฎหมายนั้นปืนถือเป็นอาวุธอันตรายสูงสุดเมื่อเทียบกับมีด ดังนั้น คนมีปืนจึงถูกเพ่งเล็งพิเศษ ถ้าใช้เพื่อป้องกันตัว ต้องไม่เน้นการฆ่าให้ตาย แต่ควรทำเพื่อยับยั้งคนร้ายเป็นหลัก จึงถือว่าเป็นการทำพอสมควรแก่เหตุ เช่น ยิงปืนที่แขนขาของโจร เป็นต้น ถ้าใช้มีดเพื่อป้องกันตัวก็ต้องมีพฤติการณ์มองได้ว่าทำเพื่อหยุดยั้งโจร มิได้มุ่งการฆ่า สิ่งใดชี้ให้เห็นเจตนาของผู้ใช้อาวุธ คำตอบคือ กรรมหรือการกระทำบ่งชี้เจตนาได้ชัดเจน ตัวอย่างเช่น ทะเลาะมีปากเสียงกัน ต่อยกันไปทีหนึ่งแล้ว ฝ่ายหนึ่งยังโกรธคาใจอยู่ วิ่งกลับไปเอามีดพร้าที่บ้านแล้วไปแทงคู่ทะเลาะในบ้านของเขา กรณีนี้ไม่สามารถอ้างป้องกันตัวเองได้เพราะไม่ได้ป้องกันตัวขณะเกิดเหตุ แต่มีเวลาวิ่งกลับไปหยิบมีดเพื่อฆ่าเขา จึงผิดฐานเจตนาฆ่าเพื่อน มิใช่ป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย


การกระทำที่พอสมควรแก่เหตุนั้น จะถือว่าไม่มีความผิดทางอาญาทุกข้อหาเพราะกฎหมายเรียกว่าเป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ ในอีกทางหนึ่งหากกระทำเกินกว่าเหตุ ผู้กระทำต้องมีความผิด แต่ศาลอาจลงโทษน้อยกว่าที่ความผิดนั้นกำหนดไว้เพียงใดก็ได้ หรือ กรณีศาลเห็นว่าทำเพราะตื่นเต้น ตกใจ หรือ กลัว ศาลจะไม่ลงโทษเลยก็ได้ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงในคดีและดุลพินิจของผู้ตัดสิน


กรณีทำเกินกว่าเหตุหรือทำด้วยความตื่นเต้น ตกใจ หรือกลัว ยังถือเป็นการกระทำความผิดอาญาอยู่ ถ้าศาลมองว่าเป็นการป้องกันตัว ก็อาจเลือกลงโทษน้อยลงหรือไม่ลงโทษก็ได้ หมายความว่า เป็นผู้กระทำผิดทางอาญา แต่ไม่ต้องรับโทษ ซึ่งแตกต่างจากผู้ที่ป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมายที่ถือว่า การกระทำนั้นไม่มีความผิดเลย จึงไม่มีโทษอาญาใด


กรณีเจ้าของบ่อปลาฟันคอโจรขาดคารั้วนั้นเข้ากับกรณีป้องกันตัวเกินกว่าเหตุ ศาลจึงสั่งลงโทษผู้ใช้มีดให้จำคุกน้อยกว่าที่กฎหมายเจตนาฆ่าคนพึงลงโทษได้ เนื่องจากข้อเท็จจริงในคดีชี้ว่า บ่อปลานี้มีโจรเข้าไปขโมยเป็นประจำและเจ้าของบ่อรู้ดีว่าโจรเข้าทางใด จึงตระเตรียมมีดและไปดักรอที่รั้วนั้น เมื่อโจรโผล่หัวข้ามรั้วเข้าไปเพื่อหวังขโมยปลา เขาใช้มีดตัดคอโจรขาดคารั้วด้วยความแค้นใจ แสดงว่ามีแผนเตรียมฆ่าด้วยอาวุธ แม้ทำเพื่อปกป้องบ่อปลาไว้ แต่เป็นการทำเกินกว่าเหตุที่เป็นความผิดอาญาฐานฆ่าคนโดยเจตนาและต้องรับโทษจำคุก แต่ศาลจะลงโทษน้อยกว่าความผิดฐานฆ่าคนเพียงใดก็ได้ เจ้าของมิได้ทำด้วยความตกใจ ความกลัว หรือความตื่นเต้น จึงไม่อาจรับการยกเว้นโทษตามกฎหมายได้


หากสมมติว่าเจ้าของบ่อปลาวางแผนดักจับโจรด้วยใช้มีดทำร้ายโจรให้บาดเจ็บแล้วจับส่งตำรวจ การตัดสินคดีนี้อาจเปลี่ยนแปลงไปว่า การกระทำของเจ้าของปลาอยู่ในขอบเขตอันควรเมื่อเขาใช้มีดเพื่อป้องกันชีวิตตัวเองและบ่อปลาไว้ จึงไม่ถือว่ามีความผิดฐานทำร้ายโจร ก็ไม่ต้องติดคุกด้วยเข้าการคุ้มครองของกฎหมาย การรู้ขอบเขตความสมควรในการใช้อาวุธก็ให้ผลคุ้มครองชีวิต ทรัพย์สิน โดยกฎหมายได้แล้ว


เหตุยกเว้นไม่ต้องรับโทษด้วยการป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมายนั้นใช้เป็นข้ออ้างของผู้ใช้อาวุธได้ แต่จำต้องรู้จักควบคุมหนักเบาของการใช้อาวุธให้เหมาะสมและใช้อย่างมีสติ อีกทั้งต้องจำไว้ว่า การได้รับผลคุ้มครองจากกฎหมายข้อนี้ต้องมาจากความสุจริตใจของผู้ใช้และดุลพินิจของผู้ตัดสินว่าเห็นพ้องกับข้ออ้างและหลักฐานด้วย เคยมีตัวอย่างของนักแม่นปืนระดับเข้าแข่งเอเชียนเกมส์ยิงโจรที่เข้าบ้าน แต่ระดมยิงตายไปกว่า 10 นัด อ้างว่ายิงด้วยความตกใจสุดขีด ผู้ตัดสินไม่เห็นพ้องและมองว่าเป็นการทำเกินกว่าเหตุและผู้ใช้อาวุธมีความรู้และผ่านการฝึกใช้ปืนมาอย่างดีย่อมไม่มีทางขาดสติได้เพียงนั้น จึงสั่งลงโทษจำคุกเขา


เมื่ออยากมีอาวุธในครอบครองไม่ว่าปืนหรือมีด ต้องมีสติติดกายตลอดเวลา รู้จักควบคุมอาวุธ ความหนักเบาของการใช้อาวุธส่งผลต่อความรับผิดชอบทางกฎหมาย จงเตือนตนไว้ว่าทุกครั้งที่ใช้อาวุธ ผู้ใช้ต้องรับผิดชอบทางกฎหมายทั้งอาญาและแพ่งเสมอ ทางอาญาคือ จำคุก ประหารชีวิต ทางแพ่ง คือ ชดใช้เงินให้ครอบครัวผู้เสียหายที่ตายหรือบาดเจ็บ ผู้มีอาวุธต้องเป็นผู้ควบคุมมัน มิใช่แค่คนถืออาวุธเท่านั้น


เรียบเรียงโดย Black Cuff

No comments:

 

Samsung LCD televisions