Friday, May 28, 2010

ความเชื่อกับความจริง

ความเชื่อกับความจริง



Thaiselfdefense.com ได้รับการจัดตั้งขึ้นเพื่อให้ความรู้และเตือนภัยแก่สุจริตชนทั้งหลาย ให้ตระหนักรู้ถึงภัยอันตรายจากอาชญากรรมและความรุนแรงที่คุกคามเข้ามาใกล้อย่างเงียบๆ เราอาจเสียทรัพย์ บาดเจ็บเล็กน้อย จนถึงขั้นเสียชีวิต พิการหรือต้องทนทุกข์จากเคราะห์ร้ายนี้ไปตลอดชีวิต


แน่นอนว่าก่อนหน้านี้คุณก็คงเคยได้รับข้อมูลข่าวสาร คำเตือน คำแนะนำต่างๆด้วยความปราถนาดี จากผู้คนมากหน้าหลายตา คุณก็เชื่อบ้างไม่เชื่อบ้างถึง พ.ศ.นี้ ข้อมูลเหล่านี้จะยังน่าเชื่อถือหรือไม่ เรามาทบทวนข้อมูลกันหน่อย


1. ความเชื่อ ผู้หญิงหน้าตาพื้นๆธรรมดา คงไม่มีใครอยากข่มขืน


ความจริง ผู้หญิงทุกคนมีโอกาสถูกข่มขืนทั้งสิ้น ไม่ว่ามีอายุมากน้อยเท่าใด การศึกษาระดับไหน แต่งกายอย่างไร ฯลฯ เพราะผู้ชายสมัยนี้ข่มขืนผู้หญิงด้วยเหตุผลอื่นๆมากมาย เช่น อวดเก่งในหมู่เพื่อน เมาเหล้าหรือเมายา เพื่อแสดงความโกรธแค้น เพื่อลบปมด้อย ฯลฯ


2. ความเชื่อ เดินผ่านที่เปลี่ยวระวังคนแปลกหน้าจะมาฉุดไปข่มขืน


ความจริง จากสถิติของกรมตำรวจ ส่วนใหญ่การข่มขืนเกิดขึ้นในบ้าน คนร้ายส่วนใหญ่ไม่ใช่คนแปลกหน้า แต่เป็นญาติ เพื่อน คนรู้จัก คนบ้านใกล้เรือนเคียง แฟนเพื่อนหรือแม้แต่แฟนของคุณเอง


3. ความเชื่อ ให้ระวังคนหน้าตาหลุกหลิกไม่น่าไว้ใจ


ความจริง คนร้ายหรือนักข่มขืนส่วนใหญ่ ดูสุขุมนุ่มนวลน่าไว้ใจด้วยซ้ำ ไม่จำเป็นจะต้องมีหนวดเครารุงรัง ผิวดำ ด้อยการศึกษา แต่ผู้ชายทุกคน ทุกวัย ทุกอาชีพ ทุกฐานะ อาจกลายเป็นไอ้หื่นได้ ถ้าเขาสบโอกาส


4. ความเชื่อ อาชญากรรมและการข่มขืนบางครั้งเกิดจากอารมณ์ชั่ววูบเพราะฝ่ายหญิงแต่งตัวยั่วยวน

ความจริง อาชญากรและนักข่มขื่นส่วนใหญ่มีการวางแผนไว้ก่อน เขาเตรียมเครื่องมือและทางหนีทีไล่ไว้แล้ว และออกล่าเหยื่ออย่างมีเป้าหมาย เขาเลือกคุณเพราะคุณให้โอกาสเขาต่างหาก

5. ความเชื่อ ผู้หญิงไม่อาจกล่าวหาว่าสามีข่มขืนได้เพราะแต่งงานกันแล้ว


ความจริง กฎหมายปัจจุบันนี้การมีเพศสัมพันธ์โดยฝ่ายหญิงถูกข่มขู่ บังคับ กดดัน ทำร้าย จนต้องยอมตามถือว่าเป็นการข่มขืนทั้งสิ้น ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นสามีหรือคนรักที่เคยมีความสัมพันธ์กันมาแล้วก็ตาม


6. ความเชื่อ มีมีด มีปืน เอาใส่กระเป๋าถือไว้เผื่อขู่คนร้าย


ความจริง กระเป๋าถือ กระเป๋าสะพาย เป็นสิ่งแรกที่นักวิ่งราวหรือคนร้ายจะคว้าวิ่งหนีหรือยึดไว้ และเป็นสิ่งแรกที่คุณจะวางลืมเวลานั่งในร้านอาหาร ร้านเสริมสวยหรือขับรถ อีกประการหนึ่งการพกพาอาวุธไว้ขู่คนร้ายเป็นเรื่องอันตรายอย่างยิ่ง จากการศึกษาบันทึกคดีต่างๆหลายปี ขอยืนยันว่า ไม่มีผู้ร้ายคนไหนกลัวปืนหรือมีดในมือของผู้หญิงหรือผู้ชายที่ไม่มีทักษะในการใช้อาวุธ การที่เขาแกล้งทำเป็นกลัวเพื่อหาโอกาสแย่งอาวุธมาเล่นงานคุณต่างหาก ถ้ามีอาวุธต้องเรียนรู้ฝึกฝนการใช้งานให้ชำนาญ การนำพาไปต้องพกไว้กับตัวและต้องกล้าใช้เมื่อจำเป็น


7. ความเชื่อ อุปกรณ์ดีๆทำให้การใช้งานมีประสิทธิภาพ ซื้ออาวุธป้องกันตัวต้องรุ่น Top ไปเลย


ความจริง ข้อนี้ถูกครึ่งเดียว อุปกรณ์ดีๆเทียบไม่ได้กับความคุ้นเคยและทักษะในการใช้เครื่องมือนั้นๆ ผมรู้จักช่างภาพบางคนที่ใช้กล้องรุ่นเก่าและโทรมมากๆ หาเงินได้เป็นล้านทุกปีและไม่ยอมแลกกับกล้องรุ่น Top ทุกตัวในสมัยนี้อย่างเด็ดขาด


8. ความเชื่อ ถูกคนร้ายจี้ด้วยมีดหรือปืน หาจังหวะเตะระหว่างขาหรือเตะผ่าหมากรับรองทรุดหมดสภาพแน่นอน


ความจริง คนร้ายอาจทรุดลงด้วยความเจ็บปวดและจุกเสียด แต่ยังยิงหรือแทงคุณได้แน่นอน อดีตตำรวจ Massad Ayoob (แมสซาด อยูบ) ครูฝึกตำรวจสหรัฐ ทดลองให้ชายร่างใหญ่สุดในชั้นเตะผ่าหมากชายตัวเล็กสุดซึ่งมีปืนในมือ นายตัวเล็กทรุดลงแต่ยังสามารถยิงนายตัวใหญ่ด้วยปืน BB ถึงสี่นัด


“รู้น้อยแต่เชี่ยวชาญ ดีกว่ารู้มากแต่ผิวเผิน”


เรียบเรียงโดย Snap shot
ขอขอบคุณข้อมูลจากหนังสือ “ผู้หญิงสู้คน”

1 comment:

Batman said...

หลักการป้องกันตัวนั้นประกอบด้วย 3 ประการใหญ่ๆ คือ การตระหนักรู้ (Awareness) ถึงบุคคลรอบตัวตลอดเวลา รู้ว่าตัวเรากำลังทำอะไรอยู่ รับรู้ถึงสิ่งแวดล้อมรอบตัว ประการที่สอง คือ การเตรียมพร้อมรับมือกับภัยคุกคาม ซึ่งรวมถึงการมี ...สติ... คิดหาวิธีหลีกเลี่ยงภัยคุกคาม การหนี หรือพยายามทำให้เกิดความเสียหายให้น้อยที่สุด ประการสุดท้าย คือ การป้องกันตัวด้วยวิธีที่เหมาะสม หากต้องใช้กำลังก็ต้องใช้อย่างผู้มีทักษะและไม่ลังเลที่จะทำทุกอย่างเพื่อให้รอดพ้นจากภัยคุกคาม

การเตรียมความพร้อมทางร่างกายไม่ว่าจะเป็นเรื่องของทักษะในการป้องกันตัวในสถานการณ์ต่างๆ ยังต้องเตรียมความรู้และฝึกฝนการตระหนักรู้และการตั้งสติเมื่อเผชิญเหตุร้าย

ลองคิดดูว่าหากตัวคุณตกอยู่ในสถานการณ์ร้ายแรง คุณจะแก้ไขอย่างไร ใฝ่หาความรู้และฝึกฝนทักษะที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ของตัวคุณเอง

Batman

 

Samsung LCD televisions