Thursday, April 8, 2010

Knife Fighting Stances

Knife Fighting Stances



โดยทั่วไปหากมีการต่อสู้ด้วยมือเปล่าคนตัวใหญ่ย่อมได้เปรียบคนตัวเล็กกว่า แต่มีดถือเป็นอาวุธหนึ่งซึ่งทำให้คนตัวเล็กสามารถต่อสู้ป้องกันตัวจากคนตัวใหญ่ได้ จนบางคนเรียกอาวุธมีดว่าเป็น Equalizer (สิ่งที่ทำให้เกิดความเท่าเทียมกัน) ดังนั้นผู้หญิงตัวเล็กๆหากรู้วิธีใช้มีดต่อสู้ป้องกันตัวจะเป็นประโยชน์ไม่น้อยทีเดียว


สำหรับทหารแล้วมีดถือเป็นอาวุธด้านสุดท้ายที่จะใช้เพื่อต่อสู้ป้องกันตัว (The last line of defense) ก่อนที่จะเป็นการต่อสู้ด้วยมือเปล่า (Hand to hand combat or Empty hand combat)


ในการใช้มีดเพื่อต่อสู้ป้องกันตัวนั้น นอกจากการจับและถือมีดอย่างถูกวิธีแล้ว ท่ายืนเตรียมพร้อม (Knife Fighting Stance) ก็เป็นส่วนสำคัญอย่างหนึ่งที่ขาดไม่ได้ ท่ายืนเตรียมพร้อมที่จะใช้อาวุธมีดนั้นมีหลายรูปแบบแตกต่างกันตามแต่ละระบบของวิชามีดที่กำหนดขึ้น จะขอยกตัวอย่างเพียงบางรูปแบบ


ท่ายืนที่ดีนั้นควรให้ความมั่นคง สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้ดี ให้การปกป้องส่วนสำคัญของร่างกายได้


1. ท่ายืนซึ่งมือข้างถือมีดจะอยู่ชิดลำตัว เพื่อลดโอกาสที่จะถูกฟันมือ ส่วนมืออีกข้างวางอยู่บริเวณหน้าอกข้างซ้ายเพื่อป้องกันหัวใจ เท้าข้างเดียวกับที่ถือมีดเป็นเท้านำ หันตัวเล็กน้อยเพื่อลดเป้าของเราให้บางลงและย่อตัวลงเล็กน้อยเพื่อความคล่องตัวในการเคลื่อนที่


2. ท่ายืนซึ่งมือข้างถือมีดอยู่ชิดลำตัวเช่นกัน แต่มืออีกข้างจะยกขึ้นสูงกว่าแบบแรกมาที่ระดับคาง เพื่อให้ท่อนแขนสามารถปกป้องลำคอได้ด้วย เพราะถือว่าเป็นเป้าหมายสำคัญแห่งหนึ่งจากการถูกโจมตีด้วยมีด เท้าข้างเดียวกับที่ถือมีดเป็นเท้านำและย่อตัวลงค่อนข้างต่ำเพื่อลดหน้าตัดของตัวเองให้เล็กลง (อวัยวะสำคัญของร่างกายส่วนใหญ่อยู่แนวกลางตัว ถ้าทำให้ส่วนนี้เล็กลงได้ด้วยการย่อตัวต่ำและใช้มือและแขนในการป้องกันจะลดโอกาสที่จะถูกจู่โจมที่อวัยวะสำคัญได้ยากขึ้น)


3. ท่ายืนซึ่งมือข้างถือมีดอยู่ห่างลำตัวงอข้อศอกประมาณ 90 องศา ถือมีดเฉียงประมาณ 45 องศาเพื่อความเป็นธรรมชาติของข้อมือ มีดอยู่ห่างตัวเล็กน้อย มืออีกข้างเอียงสันมือออกยกขึ้นสูงระดับคอเพื่อป้องกันลำคอ ข้อศอกชิดหน้าอก เท้าข้างเดียวกับที่ถือมีดเป็นเท้านำและหันตัวเล็กน้อยเพื่อลดหน้าตัดของลำตัว ย่อตัวลงเล็กน้อย ส้นเท้าหลังยกขึ้นเล็กน้อยเพื่อความคล่องตัวในการเคลื่อนที่ (ผมใช้ท่านี้)


4. ท่ายืนซึ่งมือข้างถือมีดอยู่ชิดลำตัว มืออีกข้างงอข้อศอกยกขึ้นตั้งฉากกับพื้นยื่นไปข้างหน้า เท้าตรงข้ามกับมือที่ถือมีดเป็นเท้านำ ย่อตัวลงเล็กน้อย


5. ท่าถือมีด Karambit ในรูปแบบหนึ่งของ Silat โดยมีดจะอยู่แนวกลางตัวระดับหน้าอก ปลายมีดชี้ไปข้างหน้า มืออีกข้างอยู่ข้างหลังมีด เท้าตรงข้ามกับที่ถือมีดเป็นเท้านำ ย่อตัวลงเล็กน้อย ตำแหน่งของการถือมีดยังมีอีกหลายรูปแบบ นอกจากท่ายืนถือมีด Karambit ซึ่งมีหลายลักษณะแล้วยังมีท่าถือมีดในท่านั่งอีกหลายแบบด้วย หากใช้มีดซึ่งมีสองคมจะทำให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น


6. ท่าถือมีดรูปแบบหนึ่งของมีดไทยในลักษณะของ Reverse grip ซึ่งวิชามีดไทยนั้นมีหลายรูปแบบหลายสำนัก มีทั้งการถือมีดแบบ Forward และ Reverse grip โดยเฉพาะวิชามีดของค่ายศรีไตรรัตน์นั้น มีจุดเด่นที่ความยืดหยุ่นของวิชา มีการทรงตัวที่ดี บุกจู่โจมได้รุนแรง วิชามีดไทยนั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าต่างชาติแม้แต่น้อย ควรให้การสนับสนุนและสืบทอดต่อไป (มีดไทยมีการถ่ายทอดกันน้อยลงเรื่อยๆเนื่องจากอาจารย์บางท่านไม่ส่งเสริม ประชาชนไม่นิยมและรัฐบาลไม่เห็นความสำคัญของศิลปะการต่อสู้แบบไทยโบราณ นับวันองค์ความรู้เหล่านี้จะค่อยๆจางหายไปจากสังคมไทย ในขณะที่ศิลปะการต่อสู้ของต่างชาติรวมทั้งวิชามีดกลับได้รับการสืบทอดอย่างต่อเนื่องและแพร่กระจายไปทั่วโลกจนมาถึงประเทศไทย อีกไม่นานวิชามีดไทยของเราอาจไม่มีหลงเหลือให้เห็นอีกต่อไป)


นอกจากนั้นยังมีการถือมีดทั้งสองมือ ซึ่งอาจถือมีดแบบ Forward grip ทั้งสองข้าง หรือถือมีดแบบForward grip ข้างหนึ่งกับ Reverse grip อีกข้างหนึ่ง หรือ Reverse grip ทั้งสองข้างก็ได้ ขึ้นกับวิชาที่เรียน การฝึกฝน ความถนัดของผู้ใช้มีด ส่วนเท้านำกับเท้าตามนั้นบางระบบเท้านำจะเป็นข้างเดียวกับมือที่ถือมีด บางระบบเป็นคนละข้างกัน บางระบบเท้าทั้งสองข้างอยู่ระดับเดียวกัน บางระบบไม่มีรูปแบบแน่นอนขึ้นกับความถนัดของผู้ฝึกเป็นสำคัญ ส่วนมือข้างที่ไม่ได้ถือมีดมักใช้ในการปกป้องส่วนสำคัญของร่างกายและใช้ร่วมกับการปัดป้องการจู่โจมจากคู่ต่อสู้ทั้งขณะตั้งรับและบุก


การต่อสู้ด้วยมีดนั้นมีอยู่ในหลายวัฒนธรรมทั่วโลก ทั้งในเอเชีย ยุโรป ตะวันออกกลาง แอฟริกา และอเมริกา ซึ่งบางประเทศถือว่าการต่อสู้ด้วยมีดนั้นเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมประจำชาติทีเดียว โดยเฉพาะในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศแถบตะวันออกกลางมีลักษณะที่โดดเด่น


รูปแบบการต่อสู้ด้วยมีดสมัยใหม่ก็นำหลักการและวิธีการบางส่วนของวิชามีดเหล่านี้มาปรับใช้ให้มีความเรียบง่าย เรียนรู้ได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น


รูปแบบการต่อสู้ด้วยมีดที่นิยมในปัจจุบัน เช่น Kali, Silat, AMOK!, KAPAP, Haganah system, ระบบมีดต่อสู้ซึ่งสอนที่ศูนย์ฝึก Gunsite, มีดไทยสำนักต่างๆ เช่น ค่ายศรีไตรรัตน์ เป็นต้น


ไม่ว่าจะใช้วิชามีดระบบใดก็ต้องการการฝึกฝนเพื่อให้เกิดความชำนาญ คงไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าวิชาใดดีที่สุดเพราะขึ้นกับผู้ฝึกฝนเป็นสำคัญ ทุกวิชาล้วนมีประวัติอันยาวนานผ่านการพิสูจน์ในสมรถูมิมาอย่างโชกโชน ขอเพียงเรียนรู้และฝึกฝนให้เกิดทักษะความชำนาญ มีความมั่นใจในการใช้อาวุธมีดเพื่อป้องกันตัวเองก็ถือว่าเพียงพอแล้ว


สุดท้ายนี้ทุกครั้งที่จับมีดขอให้มี “สติ”


เรียบเรียงโดย Batman


ขอขอบคุณศูนย์ฝึกอบรม สวนหลวงไฟท์คลับ ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับมีดไทย

No comments:

 

Samsung LCD televisions