มีคนเคยถามผมว่า “จำเป็นหรือที่เราต้องฝึกศิลปะการต่อสู้เพื่อป้องกันตัว” ผมตอบว่า “ถ้าเป็นปัจจุบันนี้ จำเป็นครับ..... แต่ไม่ใช่จำเป็นที่สุด”
มีมากกว่าหนึ่งวิธีที่คุณจะป้องกันตัวจากการถูกทำร้ายและความรุนแรงต่างๆ ร่างกายที่แข็งแรงและทักษะการต่อสู้เป็นเพียงไพ่ใบสุดท้าย ที่คุณจะทิ้งลงเพื่อเอาชนะบนโต๊ะพนัน และเพื่อประกันว่าคุณจะไม่แพ้ ไพ่ใบสุดท้ายที่คุณเก็บซ่อนไว้อาจเป็นไพ่แต้มสูงสุด แต่คุณก็รู้ดีว่าวิธีที่ดีที่สุดที่จะป้องกันการแพ้พนัน คือ ไม่เข้าไปในบ่อนตั้งแต่แรก
มีทฤษฎีอยู่ว่า “ไม่มีภัยพิบัติหรืออาชญากรรมใดๆเกิดขึ้นโดยไม่มีเค้าลางหรือสัญญาณเตือนภัยดังมาก่อน” มันอยู่ที่คุณจะสัมผัสหรืออ่านรหัสที่ส่งมาพร้อมสัญญาณนั้นได้หรือไม่ นักวิทยาศาสตร์ยอมรับมานานแล้วว่า สัตว์ต่างๆมีประสาทสัมผัสที่ละเอียดอ่อนและมีประสิทธิภาพกว่ามนุษย์หลายร้อยหลายพันเท่า นักวิจัยกำลังพยายามเรียนรู้ทำความเข้าใจกับความสามารถพิเศษนี้แล้วนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อมนุษย์ เช่น โครงการฝึกปลาโลมาเพื่อค้นหาและกู้ภัยทางทะเล ฝึกนกเพื่อการค้นหาลาดตระเวนทางอากาศ จนถึงฝึกสุนัขเพื่อให้ค้นหาวัตถุระเบิดและยาเสพติด ล่าสุดถึงกับฝึกสุนัขเลี้ยงให้เตือนภัยเมื่อเจ้าของที่มีโรคประจำตัวแล้วมีอาการกำเริบ เช่น เบาหวาน, มะเร็ง เพราะสุนัขมีประสาทดมกลิ่นที่สัมผัสได้ถึงอาการเริ่มต้นของโรคนั้นๆ กลิ่นซึ่งเครื่องมือทันสมัยที่สุดก็ยังตรวจไม่พบ
มนุษย์ไม่มีประสาทสัมผัสที่ดีเท่าสัตว์แต่เรามีสมองที่ใหญ่กว่าในการรวบรวมข้อมูลและประมวลผลเพื่อการเดาถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นได้ดีกว่า รวมทั้งการเก็บผลลัพธ์ไว้เป็นประสบการณ์แล้วถ่ายทอดต่อๆกันไป แต่เพราะการอยู่ร่วมกันในเมืองใหญ่และความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ทำให้เรามีเครื่องมือมากมายเพื่อทำหน้าที่แทนประสาทสัมผัสของเรา แล้วก็พึ่งพามันมากจนละเลยความสามารถพิเศษที่เรามี
เราลืมไปว่าไม่มีเครื่องมือใดๆที่จะมาแทนที่ประสบการณ์และความสามารถในการประมวลผลและคาดการณ์ล่วงหน้าได้ สิ่งเหล่านี้สมองเราทำได้และทำอยู่ตลอดเวลา เมื่อมีแนวโน้มจะเกิดภัยคุกคาม สมองจะส่งสัญญาณเตือนในรูปของลางสังหรณ์ ซึ่งแสดงออกทางร่างกายโดยอาการต่างๆ ทำให้เรารู้สึกไม่สบายใจ รู้สึกไม่ปลอดภัย ลังเล ฯลฯ สิ่งเหล่านี้เราอาจสัมผัสไม่ได้หรือได้แต่ละเลยเสียเพราะไม่เข้าใจมัน จนเดินเข้าสู่กับดักอาชญากรรมความรุนแรง ถึงตอนนั้นแม้กล้ามเนื้อที่แข็งแรงและทักษะการต่อสู้ก็ช่วยเราไม่ได้ เพราะคนร้ายในยุคสมัยนี้มักลอบเล่นงานเราลับหลังไม่เปิดโอกาสให้เราได้ตั้งตัว
การพยายามรวบรวมข้อมูลรอบตัวด้วยประสาทสัมผัสทั้งห้าให้สมองไว้ประมวลผลและส่งสัญญาณเตือนภัยแก่เราอาจได้ผลไม่เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ อันเนื่องจากประสาทสัมผัสทั้งห้าของเรามีประสิทธิภาพและทักษะน้อยเกินไปแต่ก็ควรเริ่มต้นฝึกฝนได้ ส่วนข้อผิดพลาดที่เหลืออยู่อันเป็นเหตุให้คุณต้องเผชิญหน้ากับคนร้าย ก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณเตรียมพร้อมและฝึกฝนการป้องกันตัวได้ดีเพียงใด นี่คือไพ่ใบสุดท้ายที่คุณต้องทิ้งลงเพื่อช่วยให้คุณรอดจากภัยคุกคาม อย่ามัวลังเลอยู่เลยรีบออกไปฝึกฝนเพิ่มประสิทธิภาพให้กับร่างกายของเรากันเถอะ ฝึกไว้ไม่ได้ใช้ยังดีกว่าจำเป็นต้องใช้แล้วว่างเปล่า
เรียบเรียงโดย Snap shot
2 comments:
แน่นอนว่าหลายคนอาจไม่เคยพบเจอเหตุการณ์ร้ายมากมาก่อน ยกเว้นในข่าวคราวตามสื่อต่างๆ แต่อยากฝากให้คิดว่า หากเหตุการณ์ร้ายเหล่านั้นเกิดขึ้นกับเราจะทำอย่างไร ส่วนใหญ่อาจตอบว่าไม่ชอบการใช้ความรุนแรงและคิดว่าพวกที่ฝึกการป้องกันตัวนั้นเป็นพวกชอบใช้ความรุนแรง ในความเป็นจริงแล้วการใช้กำลังเป็นทางเลือกสุดท้าย ผมมักเน้นย้ำว่าให้เลี่ยงเหตุการณ์ร้ายและหากตกอยู่ในสถานการณ์ร้ายก็ให้หาวิธีที่จะทำให้เหตุการณ์ร้ายนั้นผ่านไปได้ด้วยดีหรือลดความรุนแรงลง แต่หากไม่อาจเลี่ยงที่จะต้องใช้กำลังเพื่อแก้ไขปัญหาก็ให้ทำอย่างไม่ลังเลเพื่อให้ตัวเองรอดพ้นออกมาให้ได้
การป้องกันตัวควรอยู่ในขอบเขตของกฎหมาย หลักใหญ่ของการป้องกันตัวอยู่ที่การป้องกันเหตุร้าย การใช้กำลังเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการป้องกันตัวเท่านั้น
Batman
เป็นบทความที่ดีมาก ๆ เลยครับ
ได้ศึกษา ได้อ่านจากผู้รู้หลาย ๆ ท่าน
ท่านก็ว่าอย่างนี้เลยครับ เลี่ยงได้ให้ทำทันทีครับ
ขอบคุณและเป็นกำลังใจให้กับบทความดี ๆ อย่างนี้ครับ
Post a Comment