Friday, August 19, 2011

ไม่น่าเลย


ไม่น่าเลย

หลายสัปดาห์ก่อนอาจยังไม่ลืมข่าวดังข่าวนี้เป็นข่าวของชายสองคนที่ขับรถปาดหน้ากันไปมาบนถนน ในที่สุดรถก็ชนกัน ต่างจอดรถเพื่อไป “เคลีย์” กับคู่กรณี ตามคำให้การลูกชายของคนขับรถฝ่ายหนึ่งซึ่งมีอายุ 60 กว่าปีได้ลงจากรถไปเผชิญหน้าคู่กรณี ยังไม่ทันได้ระบายโทสะอะไร ก็ถูกอีกฝ่ายซึ่งอายุ 30 กว่าปี ใช้มีดที่พกติดตัวมาแทงเสียชีวิต ขอถามว่าท่านทั้งหลายเมื่อเสพข่าวนี้แล้ว ได้คติสอนใจอะไรบ้าง สำหรับผมเองได้แต่ปลงกับคู่กรณีทั้งสองว่า “ไม่คุ้มเลย” เพราะไม่อาจอดทนต่อการยั่วยุเพียงเล็กน้อย ไม่อาจปล่อยวางโทสะที่เข้าเกาะกุมจิตใจ ปล่อยให้มันเผาผลาญชีวิตและอนาคตเสียสิ้น ทั้งยังทำลายความสุขของครอบครัว ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง ของทั้งสองฝ่ายที่ต้องทนอยู่กับความเศร้าโศกเสียใจเมื่อสูญเสียบุคคลอันเป็นเสาหลักของครอบครัวไปด้วยสาเหตุเพียงเล็กน้อยเท่านั้น หากคู่กรณีทั้งสองฝ่ายฉุกคิดสักนิดว่า “จะเกิดอะไรกับอนาคตของฉันถ้าฉัน...มัน” จุดไข่ปลาในประโยคข้างต้น คู่กรณีทั้งสองก็เติมคำกริยาที่อยากทำลงไป จะพบว่าสิ่งที่เราจะพบเจอหลังจากการกระทำที่ไร้สติตามอารมณ์นั้นไม่คุ้มเลย การให้อภัยและอดทนอดกลั้นจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด

ฝ่ายที่อายุมากในข่าวกล่าวว่าเพิ่งกลับจากการทำบุญที่วัดด้วยซ้ำ แต่กลับถูกยั่วยุเพียงเล็กน้อยก็ลุแก่โทสะ ลืมวัย ลืมสังขาร ลืมตัว ต้องบุกเข้าหาเพื่อสนองตอบโทสะของตัวเองให้ได้ คิดแต่จะเล่นงานคู่กรณีเลยลืมระมัดระวังป้องกันตัว ผลคือ ถูกอีกฝ่ายใช้อาวุธแทงเสียชีวิต

ส่วนอีกฝ่ายอายุแค่ 30 กว่าปี ซึ่งนับว่ามีความรักชอบในอาวุธมีด ให้การกับตำรวจว่า พกมีดติดตัวไว้ประจำเป็นปกติ แต่คงไม่เคยอ่านบทความใน Thai self-defense ซึ่งเตือนอยู่เสมอว่า “มีอาวุธ พกอาวุธ ถืออาวุธ ต้องมีสติด้วย” เพราะอาวุธทุกชนิดเมื่ออยู่ในมือของผู้ขาดสติแล้วก็อาจก่ออันตรายต่อตนเองและผู้อื่นอย่างคาดไม่ถึง ในทางจิตวิทยาอาวุธโดยสภาพเป็นตัวแทนของอำนาจและความก้าวร้าวรุนแรงเสมอ ดังนั้นใครที่ชื่นชอบในงานศิลป์ของศาสตราวุธจนอดไม่ได้ ต้องเรียนรู้ ฝึกฝนหรือแสวงหามาพกติดตัวไว้ประจำ ก็ต้องสำรวจใจของตัวเองให้ดีก่อนว่ามี “สติ” พอจะรับมือกับการท้าทาย ยั่วยุในรูปแบบต่างๆได้หรือไม่ หากไม่มั่นใจแล้วละก็ควรเก็บอาวุธอันตรายเหล่านี้ไว้ชื่นชมที่บ้านน่าจะเหมาะสมกว่า แต่ในคดีนี้ทั้งสองฝ่ายต่างเลือกตามใจตัวเอง ไม่ได้คิดถึงผลสุดท้ายที่ตามมา ไม่ว่าฝ่ายไหนจะแพ้หรือชนะ คนที่แพ้แน่ๆ คือ บุคคลในครอบครัว ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง บุคคลอันเป็นที่รัก ฯลฯ ที่ทั้งสองฝ่ายทิ้งไว้เบื้องหลัง

เหตุการณ์ผ่านไปแล้วหลายอาทิตย์ หลายคนอาจจะลืมไปแล้วหรือพยายามจะลืม แต่ผมขอให้ทุกคนที่ได้อ่านบทความนี้ ขอให้ทำเหมือนผม ขอให้ทบทวน คิดถึงเรื่องนี้ ซ้ำๆ บ่อยๆ เพื่อไม่ให้ลืมอย่างเด็ดขาด เพราะ

“คนโง่เรียนรู้จากความผิดพลาดของตัวเอง แต่คนฉลาดเรียนรู้จากความผิดพลาดของคนอื่น”

                                                                                                เรียบเรียงโดย Snap shot

No comments:

 

Samsung LCD televisions