Tuesday, November 3, 2009

Choosing Self-defense Class
















Choosing Self-defense Class

National Coalition Against Sexual Assault (NCASA) ได้ให้แนวทางในการเลือกเรียนหลักสูตรป้องกันตัวสำหรับผู้หญิงไว้อย่างน่าสนใจ

ปรัชญาแรกของการป้องกันตัวสำหรับผู้หญิง เราต้องยอมรับว่าผู้หญิงไม่ได้เป็นคนขอ เป็นสาเหตุ หรือต้องการที่จะถูกทำร้าย ถึงแม้ผู้หญิงหรือผู้ชายบางครั้งจะมีความประมาทในเรื่องพฤติกรรมด้านความปลอดภัยส่วนตัวก็ตาม แต่พวกเขาเหล่านั้นก็ไม่ควรต้องรับผิดชอบต่อการถูกทำร้ายร้างกายที่เกิดขึ้น คนร้ายต่างหากที่ควรเป็นผู้ที่ต้องรับผิดชอบต่อการกระทำเลวร้ายเหล่านั้น

ปรัชญาที่สอง เมื่อผู้หญิงตัดสินใจที่จะกระทำการป้องกันตัว ไม่ว่าได้กระทำหรือไม่ได้กระทำอะไรก็ไม่ถือว่าเป็นความผิด เราควรให้ความเครพต่อการตัดสินใจที่จะพยายามเอาชีวิตรอดของพวกเขา

ปรัชญาที่สาม หลักสูตรสอนการป้องกันตัวที่ดีนั้นไม่ควร “บอก” ว่าใคร “ควรทำ” หรือ “ไม่ควรทำอะไร” แต่ควรบอกทางเลือก (Options) วิธีการทำ (Techniques) และวิธีการวิเคราะห์สถานการณ์ ภายในหลักสูตรเหล่านั้นอาจบอกว่าวิธีใดโดยปกติใช้ได้ผลดีในสถานการณ์ส่วนใหญ่ แต่การตัดสินใจสุดท้ายขึ้นอยู่กับบุคคลที่กำลังเผชิญเหตุอยู่เนื่องจากอาจมีความแตกต่างของสถานการณ์ได้อย่างมากมาย

การป้องกันตัวนั้นประกอบด้วย ความตื่นตัว (Awareness) ความมั่นใจ (Assertiveness) ทักษะการพูด (Verbal confrontation skill) กลยุทธ์ด้านความปลอดภัย (Safety strategies) และวิธีการใช้กำลัง (Physical techniques) ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้ประสบความสำเร็จในการ “หนี ต่อต้านคนร้าย หรือมีชีวิตรอด” หลักสูตรที่ดีควรให้ความรู้ด้านจิตวิทยา (Psychological awareness) และทักษะด้านการใช้คำพูดร่วมด้วย ไม่ใช่สอนแค่วิธีการใช้กำลังในการแก้ไขสถานการณ์เท่านั้น

การฝึกการป้องกันตัว (Self-defense training) สามารถเพิ่มทางเลือกและช่วยคุณในการตอบสนองต่อการถูกทำร้ายได้ การป้องกันตัวก็เหมือนเครื่องมือชนิดหนึ่งถ้าคุณรู้จักมันดี รู้ว่ามันใช้งานอย่างไร รู้ข้อจำกัดของมัน ข้อมูลเหล่านี้ก็ช่วยคุณในการตัดสินใจที่จะใช้มัน

การป้องกันตัวนั้นไม่อาจรับประกันได้ว่าคุณจะปลอดภัยจากการถูกทำร้ายได้อย่างแน่นอน แต่การฝึกการป้องกันตัวทำให้คุณมีทางเลือกหรือมีความพร้อมมากขึ้นเมื่อเผชิญสถานการณ์ที่เลวร้าย

ไม่มีมาตรฐานชัดเจนสำหรับหลักสูตรป้องกันตัว บางหลักสูตรสอนแค่ 4 ชั่วโมงจนถึงหลายเดือน แต่ไม่ว่าหลักสูตรจะนานมากน้อยแค่ไหนก็ควรตั้งอยู่บนพื้นฐานที่ว่า ควรสอนทางเลือกให้มาก วิธีการเรียบง่าย และผู้หญิงควรทำได้

ครูฝึกอาจเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายก็ได้ เพราะหลักสูตรที่ดีขึ้นกับปรัชญา ความรู้ วิธีการสอน ของผู้สอนมากกว่าเพศของครูฝึก ถึงแม้บางครั้งการมีครูฝึกเป็นผู้หญิงอาจสะดวกมากขึ้นเมื่อต้องการปรึกษาปัญหาบางอย่างที่มีความอ่อนไหว แต่การได้ฝึกซ้อมกับผู้ชายก็อาจดีในแง่เพิ่มความคุ้นเคยกับการป้องกันตัวกับผู้ชาย สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ ครูฝึกไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชายต้องสร้างความมั่นใจ ความสามารถและความแข็งแรงให้กับนักเรียนได้ ความรู้สึกปลอดภัยและการสร้างความไว้ใจต้องมาก่อนการเรียนรู้

การป้องกันตัวไม่จำเป็นต้องเรียนกันหลายปี ในหลักสูตรขั้นพื้นฐานนั้นใช้เวลาเรียนไม่นาน เพียงแค่ให้หลักการการป้องกันตัว วิธีการพื้นฐาน แล้วคุณฝึกฝนหรือเรียนรู้เพิ่มเติมต่อไปได้ การป้องกันตัวไม่ใช่การเรียนคาราเต้หรือศิลปะการต่อสู้ (Martial art training) มันไม่ได้ต้องการเวลาหลายปีเพื่อความสมบูรณ์แบบ

หลายคนสงสัยว่าถ้าเราใช้กำลังในการป้องกันตัวนั้นจะทำให้เราเจ็บตัวมากขึ้นหรือไม่ ก่อนที่จะตอบคำถามนี้ต้องขอถามว่า “เจ็บตัวมากขึ้น” นั้นหมายถึงอย่างไร ผู้หญิงที่เคยถูกข่มขืนหลายคนต่างยังมีความเจ็บปวดทางด้านจิตใจอยู่แม้บาดแผลทางร้างกายนั้นได้หายไปแล้ว มีการศึกษาพบว่าการป้องกันตัวโดยใช้กำลังไม่ได้เพิ่มระดับการบาดเจ็บแต่อย่างใด อีกทั้งหลายกรณีกลับลดลงเสียด้วย อีกทั้งผู้หญิงที่ทำตามคนร้ายตลอดก็ยังอาจถูกทำร้ายอย่างป่าเถื่อนเสียด้วยซ้ำ

จุดประสงค์หลักของการป้องกันตัว คือ การบรรเทาการบาดเจ็บและรีบหนีออกมาจากสถานการณ์นั้นๆให้เร็วที่สุด

หลายหลักสูตรมักโฆษณาว่าเป็นหลักสูตรที่ “ดีที่สุด เหมือนจริงที่สุด ประสบความสำเร็จที่สุด” นั้นก็เป็นเพียงกลเม็ดในการโฆษณาเท่านั้น จงจำไว้ว่าไม่มีหลักสูตรใดสามารถจำลองการทำร้ายร่างกายได้เหมือนจริงที่สุด เพราะในสถานการณ์จริงนั้นมีความแตกต่างกันมาก มีหลายปัจจัยเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น อาวุธ สภาพแวดล้อม เป็นต้น จึงอาจอันตรายเกินไปที่จะมาฝึกกันเช่นนั้น

การใช้อาวุธหรืออุปกรณ์ต่างๆมาใช้ในการป้องกันตัวนั้น ประการแรกคือมันจะไม่มีประโยชน์เลยถ้าคุณไม่รู้ว่ามันใช้อย่างไร นอกจากนั้นมันยังต้องพร้อมใช้งานในยามที่เราถูกทำร้ายด้วย และไม่มีการรับประกันได้ว่ามันจะใช้ได้ผล จำไว้ด้วยว่าสิ่งต่างๆที่คุณใช้กับคนร้ายเพื่อป้องกันตัวเองก็อาจถูกนำกลับมาใช้กับตัวคุณเองได้ด้วย ดังนั้นคุณต้องเรียนรู้ข้อจำกัดและความน่าเชื่อถือของอุปกรณ์ต่างๆเหล่านี้

ราคาค่าเรียนนั้นไม่ได้เป็นตัวบอกถึงคุณภาพของหลักสูตร ไม่ใช่ว่ายิ่งแพงยิ่งดี แต่ก็ไม่ได้ให้เราเลือกหลักสูตรที่ถูกที่สุดไว้ก่อน คงต้องใช้วิจารณญาณในการพิจารณา

คุณไม่จำเป็นต้องรูปร่างดีเหมือนนักกีฬาจึงจะเรียนการป้องกันตัวได้ หลักสูตรที่ดีต้องสามารถสอนนักเรียนได้ด้วยความยืดหยุ่น นักเรียนสามารถบอกความต้องการอยากรู้ของตนได้ และในหลายหลักสูตรมีการจัดสอนเฉพาะกลุ่มด้วย

หลักสูตรที่ดีนั้นควรอยู่บนพื้นฐานที่ว่าผู้หญิงสามารถทำได้ วิธีการใช้กำลังป้องกันตัวต้องเรียบง่าย (ง่ายทั้งการจดจำและการกระทำ) ใช้ความฉลาดมากกว่ากล้ามเนื้อ และให้ทางเลือกหลายทางในการป้องกันตัว ครูฝึกควรใส่ใจต่อความกังวลหรือความกลัวของนักเรียน เสริมสร้างความมั่นใจ

Easy defense club แนะนำวิธีการเอาตัวรอดจากสถานการณ์วิกฤติด้วยวิธีการที่เรียบง่ายและมีประสิทธิภาพ ผู้รับการฝึกสามารถเลือกที่จะเรียนการป้องกันตัวด้วยมือเปล่าหรือการใช้อาวุธมีดระบบต่อสู้อย่างถูกต้องได้

สุดท้ายนี้ขอให้ตั้ง “สติ” ทุกครั้งเมื่อเผชิญเหตุ และขอให้ “พลังจงอยู่กับท่าน”

เรียบเรียงโดย Batman
อ้างอิงเนื้อหาบางส่วนจากบทความเรื่อง Guidelines on Choosing a Women's Self-Defense Course ของ National Coalition Against Sexual Assault (NCASA) จาก Portland Police Bureau

No comments:

 

Samsung LCD televisions