How
to Prevent Home Invasion
การบุกรุกบ้านโดยคนร้าย
(Home
Invasion) ถือเป็นหนึ่งในอาชญากรรมร้ายแรง
โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ การลักขโมยและการปล้นบ้าน
การลักขโมย
เป็นอาชญากรรมที่มักไม่มีพยานรู้เห็นเหตุการณ์ อาทิเช่น
ตัวคุณไม่อยู่บ้านขณะที่มีการลักขโมยเกิดขึ้น มารู้ตัวอีกครั้งเมื่อกลับมาบ้านและพบว่ามีของหาย
แต่การบุกปล้นบ้านนั้นเป็นอะไรที่ต่างออกไปมาก
มีทั้งความรุนแรงและน่ากลัว เพราะไม่เพียงแค่ทรัพย์สินในบ้าน
แต่ตัวคุณและสมาชิกในครอบครัวก็ตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรมด้วย
นาย George
Wehby ได้ให้ข้อแนะนำเป็นบัญญัติ 10 ประการ
ในการป้องกันบ้านจากการถูกบุกรุกในทั้งสองกรณี
1. ล๊อกประตูและหน้าต่างทุกบาน
เมื่อตำรวจตรวจสอบที่เกิดเหตุมักจะมองหาประตูหรือหน้าต่างที่ไม่ได้ล๊อกเป็นอย่างแรก
เนื่องจากคนร้ายจะตรวจสอบประตูและหน้าต่างทีละบานเพื่อใช้เป็นทางเข้าภายในบ้าน
ถึงแม้ไม่สามารถรับประกันการถูกบุกรุกได้แต่ก็ทำให้การเข้าภายในบ้านนั้นยากขึ้น
2. ใช้ประตู
หน้าต่างและระบบล๊อกที่แข็งแรง เมื่อคนร้ายบุกรุกบ้านด้วยความรุนแรง
เขาอาจเพียงแค่ถีบประตู งัดประตู ก็สามารถเข้าไปภายในบ้านอย่างรวดเร็ว
และอาจเข้าไปได้ทุกห้องภายในเวลาน้อยกว่าห้านาทีเสียอีก
ดังนั้นการซื้อเวลาให้คนร้ายเข้ามายากขึ้นจึงเป็นสิ่งสำคัญ คุณควรใช้ประตู
หน้าต่างและระบบล๊อกที่แข็งแรงแน่นหนา ซึ่งช่างกุญแจประตูอาจให้คำแนะนำที่ดีได้
3. ใช้แสงสว่างให้มาก
โดยปกติเมื่อความมืดมาเยือนเรามักจะมองหาที่ซึ่งมีแสงสว่าง
ในยามค่ำคืนหากภายนอกบ้านเรามีแสงสว่างเพียงพอโดยเฉพาะหน้าทางเข้าบ้าน
คนร้ายมักจะไม่เลือกที่จะใช้ประตูด้านนั้น เขาจะมองหาที่มืดซึ่งจะทำให้ไม่มีใครเห็นเขาขณะเข้าไปในบ้าน
ดังนั้นหากมีระบบป้องกันขโมยซึ่งใช้การตรวจจับการเคลื่อนไหวแล้วสั่งงานให้เปิดไฟทั้งในและบริเวณรอบบ้าน
จะทำให้คนร้ายคิดว่าคนในบ้านรู้แล้วว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น
และเพราะแสงสว่างอาจทำให้มีคนเห็นเขาได้ง่ายจึงอาจเลิกล้มความตั้งใจที่จะบุกรุกเข้าไปได้
4. ปิดหน้าต่างและม่านให้สนิท
คนร้ายมักประสงค์ต่อทรัพย์ภายในบ้าน หากเขาไม่สามารถมองเห็นอะไรภายในบ้านได้
ไม่รู้ว่ามีทรัพย์สินมีค่าอะไรอยู่บ้าง
ไม่รู้ว่ามีคนหรือสัตว์เลี้ยงภายในบ้านหรือไม่ จะทำให้เกิดความไม่แน่ใจ
ซึ่งอาจทำให้คนร้ายเปลี่ยนใจที่จะเลือกบ้านหลังดังกล่าว
5. มีสุนัขเฝ้ายาม
(Guard
dog) คนร้ายไม่ค่อยชอบเพื่อนสี่ขาสักเท่าไร
เพราะมันอาจทำอันตรายเขาได้ คุณอาจไม่จำเป็นต้องฝึกสุนัขของคุณแบบพวกมืออาชีพใช้
แต่ขอให้พอเชื่อใจในการเฝ้าระวังภัยได้ก็พอ
6. มีระบบเตือนภัยผู้บุกรุก
(Alarm
system) เสียงดังจากระบบเตือนภัยจะช่วยเตือนเราให้รู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ
และคนร้ายมักเลือกเหยื่อที่ลงมือง่ายๆมากกว่า
อีกทั้งเป็นการเตือนให้ยามหรือตำรวจมาดูที่บ้านด้วย
7. แจ้งและรายงานกิจกรรมต้องสงสัย
คนร้ายก่อนจะลงมือมักมีการเฝ้าดูความเคลื่อนไหวของบ้านเป้าหมายก่อนหลายวัน
ความตระหนักรู้ต่อภัยคุกคาม หรือ Awareness เป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับการป้องกันตัว
เมื่อเห็นสิ่งผิดปกติอาจโทรแจ้งตำรวจให้ช่วยมาตรวจสอบหรือลาดตระเวณบริเวณบ้านให้บ่อยขึ้น
และตรวจสอบผู้มาเยือนให้แน่ชัดก่อนเปิดประตูออกไป
8. ป้องกันข้อมูลของคุณ
ขยะที่คุณเอาไปทิ้งนอกบ้านอาจมีข้อมูลที่สำคัญของคุณอยู่ด้วยก็ได้
ซึ่งคนร้ายอาจใช้ข้อมูลเหล่านั้นในการหาทางเข้าบ้านคุณ เช่น
มีใบสั่งซื้อของส่งถึงบ้าน คนร้ายอาจปลอมเป็นพนักงานส่งของได้ เป็นต้น
นอกจากนั้นอาจมีการขโมยข้อมูลส่วนตัวอื่นๆของคุณได้อีก (Identity
theft)
9. มีเพื่อนบ้านที่ดี
การมีเพื่อนบ้านที่ดีจะช่วยเราเฝ้าระวังคนร้ายจากการบุกรุกได้ในระดับหนึ่ง
จึงควรรู้จักเพื่อนบ้านว่าเป็นใครบ้างและเฝ้าระวังซึ่งกันและกัน
10. คิดเหมือนคนร้าย
(Think
like a home invader) พยายามมองหาจุดอ่อนของบ้านในการที่คนร้ายจะสามารถบุกรุกเข้ามาได้แล้วทำการแก้ไขเสีย
การทำเช่นนี้ไม่ใช่ความหวาดระแวงแต่เป็นเรื่องของการป้องกัน
ข้อแนะนำทั้งหมดนี้คงไม่ใช่สูตรสำเร็จที่จะสามารถป้องกันภัยคุกคามได้ร้อยเปอร์เซ็นต์
แต่ก็ทำให้บ้านของเรามีความปลอดภัยมากขึ้น
ในหลายกรณีเราอาจต้องทำมากกว่าที่แนะนำไว้ขึ้นกับสถานการณ์และสภาพแวดล้อม
สุดท้ายนี้ขอให้ตั้ง
“สติ” ทุกครั้งเมื่อเผชิญเหตุ และขอให้ “พลังจงอยู่กับท่าน”
เรียบเรียงโดย Batman
อ้างอิงเนื้อหาบางส่วนจากบทความเรื่อง 10 Rules to Prevent Home Invasions ของ George
Wehby
No comments:
Post a Comment