คำว่า Tiger Kidnapping หรือ Tiger Robbery หมายถึง อาชญากรรมซึ่งมุ่งหวังทรัพย์สินหรือข้อมูลจากเหยื่อโดยการใช้กำลังบังคับและมีการวางแผนไว้อย่างรัดกุม ส่วนใหญ่มักทำเป็นขบวนการมีผู้ร่วมก่อการหลายคน
การที่ได้ชื่อว่า Tiger Kidnapping ก็เพราะเป็นปฏิบัติการที่คล้ายกับพฤติกรรมของ “เสือในการออกล่าเหยื่อ” โดยก่อนที่จะจู่โจมจะมีการจ้องมองเลือกเหยื่อที่ต้องการ ย่องเข้าหาเหยื่ออย่างช้าๆ เมื่อได้จังหวะก็จะกระโจนเข้าตระครุบเหยื่ออย่างรวดเร็ว
พวก Tiger Kidnapper มักมีจุดประสงค์ที่ทรัพย์สินเงินทองหรือข้อมูลซึ่งสำคัญบางอย่างจากเหยื่อ โดยมีขั้นตอนการปฏิบัติการคล้ายๆกัน ดังนี้
- การติดตามเหยื่อ (Stalking) คนร้ายจะตรวจสอบประวัติของเหยื่ออย่างละเอียดทั้งหน้าที่การงานและชีวิตส่วนตัว มีการติดตามดูชีวิตประจำวันเพื่อวางแผนในการโจมตี ส่วนใหญ่มักเลือกการโจมตีที่บ้าน ขณะเดินทางหรือช่วงทำกิจกรรมประจำวันที่ทำบ่อยๆเป็นแบบแผนซึ่งง่ายแก่การลงมือ
- การบุกรุกเข้าหาเหยื่อ (Entry) หากเป็นการบุกรุกเข้ามาในบ้าน คนร้ายจะบุกอย่างรวดเร็วและรุนแรงเพื่อควบคุมทุกคนในบ้านให้ได้ อาจมีการตัดสายโทรศัพท์ในบ้าน การพันธนาการเหยื่อ จับแยก ข่มขู่ หรือใช้กำลังทำร้าย เพื่อให้เหยื่อทำตามและไม่อาจขอความช่วยเหลือจากคนอื่นได้
- การควบคุมเหยื่อ (Control) หากคนร้ายพบเหยื่อที่ต้องการแล้วจะทำการข่มขู่ บังคับ เพื่อให้เหยื่อยินยอมทำตามที่คนร้ายต้องการอันนำไปสู่การได้มาซึ่งทรัพย์สินหรือข้อมูล โดยอาจใช้ความปลอดภัยของสมาชิกในครอบครัวเป็นเครื่องต่อรอง เช่น การบังคับให้ไปเบิกเงินหรือโอนเงินจากธนาคารเป็นจำนวนมาก เปิดตู้เซิฟในบ้านหรือธนาคารเพื่อเอาทรัพย์สินมีค่า เป็นต้น
- การทำให้ได้มาซึ่งทรัพย์สินหรือข้อมูล (Event) เป็นการนำตัวบุคคลเป้าหมายไปกระทำการบางอย่างเพื่อให้ได้ทรัพย์สินหรือข้อมูลมา เช่น อาจแยกบุคคลเป้าหมายออกจากตัวประกันคนอื่นแล้วพาขึ้นรถไปธนาคาร หรือพาไปเปิดตู้เซ็ฟ เป็นต้น
- การสังหารตัวประกัน (Kill hostages) เมื่อคนร้ายได้ทรัพย์สินหรือสิ่งที่ต้องการแล้ว ก็จะสังหารตัวประกันทั้งหมดเพื่อไม่ให้มีพยานชี้ตัว
- การหลบหนี (Escape) หลังจากนั้นคนร้ายก็จะแยกย้ายกันหลบหนี
ไม่ว่าบริษัทหรือองค์กรใดจะมีอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยที่เข้มแข็งเพียงใด “มนุษย์” ถือว่าเป็นจุดอ่อนที่สุดจุดหนึ่งของระบบรักษาความปลอดภัย ดังนั้นคนร้ายที่ต้องการบางอย่างจากบริษัทหรือสถานที่ที่มีการรักษาความปลอดภัยสูงเหล่านี้ จะมุ่งมาที่ตัวบุคคลในองค์กรนั้นซึ่งสามารถทำให้คนร้ายบรรลุวัตถุประสงค์ที่ต้องการได้
หากคนร้ายบุกรุกเข้ามาด้วยการปิดหน้าปิดตา เช่น ใส่หมวกไหมพรม ไม่ให้ใครเห็นใบหน้าที่แท้จริง เมื่อพวกเขาได้สิ่งที่ต้องการไปแล้วก็มีโอกาสที่คนร้าย “อาจจะ” ไว้ชีวิตตัวประกัน แต่หากพวกเขาเปิดเผยใบหน้าให้เหยื่อเห็นก็จงตระหนักไว้ว่ามีโอกาสสูงที่เหยื่อจะถูกสังหารเมื่อคนร้ายได้สิ่งที่ต้องการไปแล้ว
หากเราตกอยู่ในสถานการณ์นี้ไม่ว่าจะเป็นตัวประกันหรือบุคคลเป้าหมายของคนร้าย ต้องตั้ง “สติ” ให้ดี คิดหาทางหนี แล้วแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยเร็วที่สุด อาจเป็นหนทางเดียวที่จะทำให้สถานการณ์เลวร้ายนี้จบลงโดยมีการสูญเสียน้อยที่สุด
Tiger Kidnappings เป็นสิ่งที่ยากแก่การป้องกันและแก้ไข เพราะคนร้ายจะกระทำการหลายคน มีการแบ่งแยกหน้าที่กันทำงานอย่างชัดเจน มีการวางแผนอย่างรัดกุม และพร้อมที่จะใช้ความรุนแรงเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ
สำหรับบริษัทที่มีความเสี่ยงสูงอันอาจตกเป็นเป้าหมายของคนร้าย ควรมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีโดยพิจารณาถึงกรณีของพนักงานระดับสูงซึ่งอาจตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ด้วย และที่สำคัญคือ จิตสำนึกของการรักษาความปลอดภัย (Security-conscious) ของพนักงานเอง เช่น ไม่บอกตำแหน่งหน้าที่การงานของตนในที่สาธารณะ ผับ บาร์ เป็นต้น
ปัญหา Tiger Kidnappings ในปัจจุบันมีสถิติสูงขึ้นทุกปี ในไทยเองก็มีคดีลักษณะนี้ให้เห็นเป็นระยะๆและมีความถี่เพิ่มขึ้นเช่นกัน จำไว้ว่า “การป้องกันย่อมดีกว่าการแก้ไข” การเอาตัวรอดออกจากสถานการณ์ขึ้นอยู่กับ สติ ความรู้และทักษะในการเอาตัวรอดของเหยื่อเป็นสำคัญ
สุดท้ายนี้ขอให้ตั้ง “สติ” ทุกครั้งเมื่อเผชิญเหตุ และขอให้ “พลังจงอยู่กับท่าน”
เรียบเรียงโดย Batman
อ้างอิงเนื้อหาบางส่วนจาก Home invasion ของ Discovery channel, Can 'tiger kidnappings' be prevented? ของ Chris Summers, Wikipedia
No comments:
Post a Comment