ในการป้องกันตัวนั้นไม่ว่าเราจะใช้หรือไม่ใช้อาวุธ จุดประสงค์หลักคือ เอาตัวเรารอดออกมาจากภัยคุกคามอย่างปลอดภัยหรือบาดเจ็บให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ในการฝึกสอนของเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะสอนวิธียิงปืนเพื่อ “หยุดยั้ง” คนร้ายมากกว่าที่จะ “สังหาร” คนร้าย ซึ่งหลักการนี้ก็ใช้ในการป้องกันตัวด้วยเช่นกัน
การหยุดยั้งคนร้ายนั้น หมายความว่า คนร้ายหมดความสามารถที่จะเป็นภัยคุกคามได้อีกต่อไป ซึ่งคนร้ายนั้นไม่จำเป็นจะต้องเสียชีวิตเสมอไป เช่น กระสุนปืนขนาด .45 นิ้วเมื่อยิงถูกคนร้ายบริเวณลำตัวแล้วสามารถทำให้คนร้ายทรุดลงกับพื้น (คนร้ายอาจไม่ได้เสียชีวิตทันที) หมดสภาพที่จะเป็นภัยคุกคามได้เร็วกว่ากระสุนปืนขนาด .38 นิ้ว นั่นหมายความว่า กระสุนปืนขนาด .45 นิ้วมีอำนาจหยุดยั้ง (Stopping power) ดีกว่ากระสุนปืนขนาด .38 นิ้ว
ในการป้องกันตัวโดยสุจริตชนนั้นกฎหมายกำหนดไว้ว่าจะต้องกระทำโดยไม่ให้รุนแรงเกินกว่าเหตุ ซึ่งต้องขึ้นกับสภาพการณ์ของภัยคุกคามขณะนั้น หากเราใช้วิธีการป้องกันตัวโดยไม่มุ่งหวังเอาชีวิตของคนร้ายแต่เพียงอย่างเดียว ในแง่ของกฎหมายก็ยังพอมีทางออกให้ได้ ดังนั้นความสามารถในการหยุดยั้งคนร้ายจึงมีความสำคัญมากกว่าความสามารถในการสังหารคนร้าย
ในความตึงเครียดที่มีสารอะดรีนารีน (Adrenaline) หลั่งออกมาทำให้ร่างกายตื่นตัวสุดขีด มีความทนต่อความเจ็บปวด และมีพละกำลังมากกว่าปกติ การทำให้คนร้ายหมดความสามารถในการเป็นภัยคุกคามจะขึ้นอยู่กับการเล่นงาน Ability และ Mobility ของคนร้ายเป็นสำคัญ ทั้งสองส่วนนี้ผู้ฝึกมีดเพื่อป้องกันตัวควรให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก
สุดท้ายนี้ทุกครั้งที่จับมีดขอให้มี “สติ”
เรียบเรียงโดย Batman
No comments:
Post a Comment