เหตุการณ์ร้ายหลายครั้งคนร้ายพยายามเข้ามาบีบคอไม่ว่าจะเป็นด้านหน้า
ด้านข้างหรือด้านหลังของเรา
ซึ่งการบีบคอนี้อันตรายเกิดจากการขาดอากาศและขาดเลือดไปเลี้ยงสมอง เนื่องจากหลอดลมและเส้นเลือดแดงใหญ่บริเวณคอถูกบีบจนร่างกายขาดอากาศและสมองขาดเลือดไปเลี้ยงทำให้หมดสติและอาจเสียชีวิตได้ภายในเวลาอันสั้น
การบีบคอมีหลายวิธีทั้งการใช้มือหรือท่อนแขนบีบรัด
ตั้งแต่วิธีที่เรียบง่ายไปจนถึงวิธีที่ซับซ้อน (ซึ่งมักใช้ในการกีฬา) โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการใช้มือทั้งสองข้างบีบคอ
สำหรับประชาชนที่ต้องการป้องกันตัวจากการถูกบีดรัดคอด้วยมือทั้งสองข้างของคนร้าย
สามารถทำได้หลายวิธี ในการป้องกันตัว (Self-defense) จะเลือกใช้วิธีที่เรียบง่ายแต่มีประสิทธิภาพ คงไม่สามารถบอกกล่าวได้ทุกวิธีที่สามารถใช้แก้ไขสถานการณ์ได้ แต่จะขอเน้นที่หลักการซึ่งสามารถนำไปปรับใช้ได้
เงื่อนไขสำคัญในการป้องกันตัวจากการถูกบีดคออยู่ที่
“เวลา” หากปล่อยไว้นานหรือไม่สามารถแก้ไขออกมาได้เร็วเราอาจหมดสติไปเสียก่อน
ดังนั้น “เวลาในการตอบโต้หรือแก้ไข” จึงสำคัญมาก
โดยทั่วไปผมจะใช้หลักการ
3 ข้อ กล่าวคือ
1. Short
Circuit หรือ การทำให้ลัดวงจร เป็นการทำให้คนร้ายซึ่งกำลังมุ่งมั่นที่จะทำร้ายเราเกิดอาการช็อคหรือตกใจ
เช่น การตอบโต้กลับไปยังตำแหน่งที่เปราะบางของร่างกายคนร้าย
เพื่อให้เกิดการชะงักงันชั่วครู่
เปิดโอกาสให้เรามีเวลามากพอที่จะแก้ไขสถานการณ์ออกมาได้
ซึ่งมีหลายวิธีแต่จะไม่ขอกล่าวในที่นี้
2. เทคนิคแก้ไขการถูกบีบคอ
เป็นวิธีการแก้ไขจากการถูกบีบคอไม่ว่าจะจากด้านหน้า ด้านข้างหรือด้านหลัง
ซึ่งมีหลายวิธีแต่วิธีที่ง่ายและฝึกฝนได้ไม่ยาก อาทิเช่น อย่างแรกควรลดโอกาสที่หลอดลมและเส้นเลือดแดงใหญ่ที่คอจะถูกบีบโดยการ
“เก็บคอ” (ก้มศีรษะคางชิดลำคอ
ซึ่งจะทำให้กล้ามเนื้อคอเกร็งช่วยปกป้องหลอดลมและเสื้นเลือดได้ในระดับหนึ่ง)
จากนั้นยกแขนข้างหนึ่งขึ้นแล้วหันตัวไปด้านตรงข้ามพร้อมกันฟันข้อศอกลงบนแขนทั้งสองข้างของคนร้ายเพื่อปลดการบีดรัดคอของเรา
เทคนิคนี้สามารถใช้ได้ไม่ว่าจะถูกบีดคอจากด้านใดก็ตาม
3. การตอบโต้กลับ
(Strike
back) แน่นอนว่าเมื่อเราปลดล็อคจากการถูกทำร้ายได้เราควรหนี
แต่ในหลายกรณีก็ไม่สามารถทำได้ในทันที อีกทั้งคนร้ายอาจไล่ตามเรามาได้
ดังนั้นการตอบโต้กลับอย่างมีประสิทธิภาพอาจเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
ซึ่งการตอบโต้กลับมีหลายวิธีขึ้นกับการฝึกฝนและสถานการณ์
ในการฝึกป้องกันตัวนั้นจะได้เรียนรู้หลายๆวิธีในการแก้ไขสถานการณ์
เพื่อให้เราสามารถนำมาปรับใช้ได้กับภัยคุกคามที่กำลังเผชิญเบื้องหน้า
เนื่องจากไม่มีเทคนิคใดเทคนิคหนึ่งที่ดีสมบูรณ์แบบไม่มีที่ติ
ทุกวิธีมีข้อจำกัดหรือข้อด้อยเสมอ ดังนั้นการเรียนรู้หลายๆวิธีทำให้เราสามารถนำวิธีเหล่านั้นมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ได้ดีขึ้น
แต่จงจำไว้ว่าการฝึกการป้องกันตัว
(Self-defense
training) นั้นอาศัยความเรียบง่ายแต่มีประสิทธิภาพ ท่วงท่าอาจดูไม่สวยงามเหมือนศิลปะการต่อสู้
(Martial Arts) แต่ขอให้ดูที่ประสิทธิผลเป็นสำคัญ
หากเราเรียนรู้ท่าทางที่สวยงามดูดี แต่ต้องใช้เวลาฝึกนานหลายเดือนและมีรายละเอียดมากมายต้องจดจำ
เป็นการยากที่จะฝึกฝนให้ชำนาญได้ก็อาจไม่เหมาะสำหรับประชาชนทั่วไป
เรียบเรียงโดย Batman