Sunday, April 29, 2012

ผู้หญิงกับอาวุธ


ผู้หญิงกับอาวุธ

เพิ่งอ่านข่าวเล็กๆในหนังสือพิมพ์ขึ้นหัวข้อไว้ว่า “สาวใหญ่ใจเด็ด” เนื้อข่าวกล่าวว่า มีคนร้ายขี่จักรยานยนต์มาจอดในหอพัก แล้วแอบเข้าไปขโมยทรัพย์สิน มีคนพบเห็นก็โทรศัพท์มาบอกสาวใหญ่เจ้าของหอ คุณเธอก็คว้าปืนออกมาไปขู่คนร้าย กลับถูกแย่งปืนไปแล้วคนร้ายใช้ด้ามปืนตีศีรษะเธอแตก สาวเจ้าของหอก็แย่งปืนคืนพร้อมดึงเสื้อคนร้ายจนกุญแจรถจักรยานยนต์ของคนร้ายหล่น เขาเลยทิ้งรถวิ่งหลบหนีไป คุณเธอให้การว่า ที่กล้าแย่งปืนคนร้ายเพราะรู้ว่า “ปืนไม่มีลูก”

ผมอ่านข่าวนี้พร้อมกับความรู้สึกขอบคุณคุณพระคุณเจ้าที่สาวใหญ่ผู้นี้ไม่เสียชีวิต ผมเคยพูดและเขียนไว้หลายวาระว่า ไม่มีผู้ชายคนไหนกลัวผู้หญิงถืออาวุธหรอก คนร้ายโดยอาชีพหรือผู้ชายที่ชอบใช้ความรุนแรง จะคุ้นเคยกับอาวุธประเภท มีด ปืน เป็นอย่างดี เขาอาจแปลกใจ ตกใจ หรือผิดคาดหมาย เมื่อเหยื่อชักอาวุธออกมาแสดง แต่สิ่งนี้ไม่ใช่ความกลัวแน่ แล้วอารมณ์ก็จะเปลี่ยนเป็นความโกรธในที่สุด ยิ่งเหยื่อแสดงอาการเก้ๆกังๆ หรือแหยงอาวุธที่ตัวเองถือเสียเอง ร้อยทั้งร้อยคิดจะแย่งอาวุธมาเล่นงานเหยื่อแน่นอน

ในกรณีของหญิงคนนี้เธอทำผิดหลายประการ จนอาจเป็นเหตุให้ต้องเสียชีวิตได้ทั้งสิ้น เริ่มจาก

-          เมื่อมีคนโทรมาบอกว่ามีขโมย แทนที่เธอจะโทรแจ้งตำรวจ เธอกลับเลือกที่จะไปเผชิญหน้ากับคนร้ายเสียเอง โดยไม่ตระหนักว่าตัวเองมีต้นทุนอยู่แค่ไหน อย่างนี้ไม่เรียกว่า ใจเด็ด แต่ผมเรียกว่า ไร้สติ

-          เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ตัวเอง เธอเลือกที่จะหยิบปืน ไปขู่ขโมย ทั้งๆที่รู้ว่าปืนไม่มีลูก โดยคิดเองว่า ต่อให้ขโมยมีอาวุธอะไรพกมาด้วย คงไม่กล้าชักออกมาวัดดวงกับปืน (ที่ไม่มีลูก) ของเธอแน่นอน อย่างนี้เรียกว่า ไร้เดียงสา

-          เมื่อเอาปืนขู่ขโมย เพราะขาดทักษะในการใช้อาวุธ เธอก็เผลอให้คนร้ายแย่งปืนไปได้ ผมเชื่อว่ามันคงพยายามยิงเธอแน่ แต่เมื่อยิงไม่ได้ก็ใช้ด้ามปืนฟาดหัวเธอแตก ลองคิดดูว่าถ้าปืนมีลูกบรรจุอยู่ หรือคนร้ายมีมีดหรือปืนติดตัวมา ผมเชื่อว่าที่เธอคงไม่เพียงหัวแตกแน่ อย่างนี้เรียกว่า ขาดทักษะ

-          เมื่อเธอแย่งปืนคืนมาได้ แทนที่จะปล่อยคนร้ายไปเพื่อตามจับทีหลัง เธอกลับปลุกปล้ำยื้อตัวคนร้ายสุดฤทธิ์ คนร้ายก็ดิ้นรนสุดชีวิตเหมือนกัน ในสถานการณ์อย่างนี้คนร้ายอาจเปลี่ยนใจมาฆ่าเธอแทนก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เคราะห์ดีที่มันคิดแต่จะดิ้นรนจนหลุดแล้ววิ่งหนีไป สิ่งที่เธอผู้นี้ทำผมเรียกว่า ไม่ประมาณตน

หลักของการป้องกันตัว (Self-defense) อันเป็นสากลบอกไว้ชัดเจนว่า หากไม่มีทักษะที่ดีพอในการใช้อาวุธแล้วละก็ อย่าพยายามหยิบอาวุธใดๆมาขู่คนร้ายเป็นอันขาด เพราะมันจะเป็นการฆ่าตัวตายอย่างไม่ต้องสงสัย

การออกไปเผชิญหน้ากับคนร้ายเราต้องประเมินความพร้อมของตัวเองก่อน คิดถึงความปลอดภัยเป็นอันดับแรก และควรเป็นทางเลือกสุดท้าย

ดื่มชาในถ้วยของคุณให้หมดก่อน แล้วผมจะเติมให้เต็มใหม่
                                                                                                             
เรียบเรียงโดย Snap shot
 

Samsung LCD televisions