4 weak points
การใช้กำลังเข้าแก้ไขสถานการณ์วิกฤตินั้นควรเป็นทางเลือกสุดท้าย หากเจรจาได้ควรเจรจา หากหนีได้ควรหนี เลี่ยงได้ควรเลี่ยง แต่หากจำเป็นจริงๆก็ห้ามลังเลที่จะทำ ถ้ามีสิ่งของใกล้ตัวที่สามารถใช้เป็นอาวุธได้ก็รีบใช้ พยายามทำให้เราเป็นฝ่ายได้เปรียบมากที่สุด
ในหลายกรณีเพียงแค่เราใช้เสียงดังและท่าทางที่จริงจังแสดงการห้ามปรามก็อาจหยุดภัยคุกคามได้ หรือเพียงแค่แก้ไขจากการถูกกอด ถูกฉุดแล้วรีบหนีก็ใช้ได้แล้ว แต่หากไม่ได้ผลการใช้กำลังตอบโต้ก็อาจเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เราควรต้องรู้ว่าจะใช้กำลังอย่างไรให้มีประสิทธิภาพมากที่สุดด้วยวิธีการที่ง่ายที่สุด แม้ผู้หญิงตัวเล็กๆก็สามารถล้มผู้ชายตัวโตได้
ร่างกายของมนุษย์โดยเฉพาะผู้ชายมีจุดอ่อนหลายแห่ง ไม่ว่าคนนั้นจะมีร่างกายใหญ่โตเพียงใด ไม่ว่าจะมีกล้ามใหญ่แค่ไหน หากเรารู้วิธีโจมตีในตำแหน่งที่ถูกต้องก็สามารถหยุดคนร้ายได้เช่นกัน การป้องกันตัวจะอาศัยการเรียนรู้จุดอ่อนของร่างกายและใช้ประโยชน์จากมันในการนำพาตัวเองให้รอดพ้นจากภัยคุกคาม วิธีการป้องกันตัวหลายอย่างนำมาจากหรือดัดแปลงมาจากศิลปะการต่อสู้หลายๆแขนงเพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่หลากหลาย
การป้องกันตัวโดยใช้กำลังมีหลักใหญ่ๆอยู่สองอย่าง คือ การแก้ไขเหตุ เช่น วิธีการแก้การถูกกอด ถูกจับมือถือแขน ถูกรัดคอ ถูกมีดจี้ ถูกปืนจี้ ถูกตีด้วยไม้ ถูกกดลงกับพื้น เป็นต้น รวมถึงการปัดป้องการทำร้ายจากคนร้าย เช่น การปัดหมัด การรับการถูกเตะ เป็นต้น อีกประการคือ การตอบโต้ ซึ่งรวมไปถึงการใช้กำลังทำร้ายหรือการควบคุมคนร้าย การจะใช้กำลังตอบโต้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ในภัยคุกคามหนึ่งๆนั้นอาจมีวิธีแก้หลายวิธีทั้งที่ใช้และไม่ใช้กำลังตอบโต้ เราควรเรียนรู้และฝึกฝนหลายๆอย่างเพื่อสามารถเลือกนำมาใช้ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ได้
ร่างกายของเรามีจุดอ่อนที่สำคัญอยู่ 4 จุดซึ่งควรให้ความสนใจเป็นพิเศษ การโจมตีไปยังตำแหน่งเหล่านี้ด้วยวิธีที่ถูกต้องจะสามารถหยุดคนร้ายได้ เปิดโอกาสให้เราหนี (เมื่อมีโอกาสให้รีบหนีทันที อย่าพยายามทำร้ายจนกว่าคนร้ายจะลุกไม่ขึ้น หรือพยายามควบคุมคนร้ายให้อยู่หมัดเพราะจะเพิ่มความเสี่ยงให้กับเราเองด้วย ยกเว้นว่าไม่อาจเลี่ยงได้จริงๆ)
- ดวงตา (Eyes) เป็นอวัยวะที่มีการปกป้องน้อยมาก เราสามารถใช้นิ้วจิ่มตาเพื่อให้พร่ามัวและเจ็บปวด หากคนร้ายหลับตาก็ยังสามารถใช้นิ้วกดไปที่ลูกตาอย่างแรงเพื่อให้เกิดความเจ็บปวดได้ เมื่อคนร้ายใช้ดวงตาไม่ได้ในขณะนั้นก็ลดโอกาสและประสิทธิภาพที่จะทำร้ายคนอื่นลงไปได้มาก จึงควรเรียนรู้วิธีในการโจมตีดวงตาอย่างมีประสิทธิภาพ
- หู (Ears) การใช้ฝ่ามือตบไปที่หูทั้งสองข้างหรือข้างใดข้างหนึ่งอย่างแรง ซึ่งแรงดันของอากาศจะถูกอัดตรงไปที่แก้วหูทำให้เกิดการฉีกขาดได้ สามารถสร้างความเจ็บปวดอย่างมากอีกทั้งการทรงตัวของคนร้ายอาจเสียไปชั่วขณะเปิดโอกาสให้เราหนี
- หลอดลม คอหอย หรือ ลูกกระเดือก (Trachea or Adam’s apple) เป็นตำแหน่งสำคัญอีกแห่งหนึ่งที่ง่ายแก่การโจมตี หากคนร้ายถูกกระแทกอย่างแรงบริเวณเหล่านี้จะทำให้การหายใจติดขัดและเจ็บปวดรุนแรงหมดโอกาสที่จะทำร้ายคนอื่นต่อไปได้
- อัณฑะ (Testis) ในผู้ชายอัณฑะถือเป็นจุดอ่อนที่สำคัญมากตำแหน่งหนึ่ง การเตะผ่าหมาก (Kick to the groin) การกระแทกเข่าหรือกำปั่นไปที่ตำแหน่งดังกล่าว จะสามารถสร้างความเจ็บปวดรุนแรงให้กับคนร้ายได้จนไม่สามารถทำร้ายหรือไล่ติดตามเหยื่อต่อไปได้
ทั้งสี่ตำแหน่งนี้ผู้ที่เรียนการป้องกันตัวควรให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก เพราะเป็นจุดที่ง่ายแก่การโจมตีและมีประสิทธิภาพในการหยุดยั้งคนร้าย
มีวิธีในการโจมตีตำแหน่งดังกล่าวหลายวิธี จงเรียนรู้และฝึกฝน (ภายใต้การดูแลของครูฝึกและมีอุปกรณ์ป้องกันการบาดเจ็บจากการฝึกซ้อม) นอกจากสี่จุดดังกล่าวแล้วยังมีอีกหลายตำแหน่งที่สามารถโจมตีได้ โดยอาศัยสรีรวิทยาของมนุษย์เพื่อสร้างความได้เปรียบในการป้องกันตัว
พึงระลึกไว้ด้วยว่าการใช้กำลังตอบโต้นั้นอาจทำให้คนร้ายบาดเจ็บอย่างรุนแรงจนถึงเสียชีวิตได้ เราควรมองเห็นคุณค่าในตัวเราเองก่อนว่ามีค่ามากกว่าคนร้าย และเราควรต้องปกป้องตัวเองไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม
จงจำไว้ว่าการป้องกันตัวในสถานการณ์จริงนั้น “ไม่ใช่กีฬา” ไม่มี “กรรมการ” มาคอยห้าม ไม่มีคำว่า “ผิดกติกา” เราต้อง “ทำทุกอย่าง” เพื่อให้รอดพ้นจากภัยคุกคาม
สุดท้ายนี้ขอให้ตั้ง “สติ” ทุกครั้งเมื่อเผชิญเหตุ และขอให้ “พลังจงอยู่กับท่าน”
เรียบเรียงโดย Batman