Thursday, June 30, 2011

Damascus Steel Blades

Damascus Steel Blades


มีดหรือดาบที่ทำจากเหล็ก “ดามาสกัส (Damascus) ถือว่าเป็นหนึ่งในอาวุธที่ดีที่สุดในโลก นอกจากเนื้อเหล็กที่มีลวดลายสวยงามแล้ว ยังมีความเหนี่ยวและแข็งแกร่งอย่างลงตัว


เหล็ก Damascus หรือที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Wootz steel มีแหล่งกำเนิดในเอเชียโดยเฉพาะแถบตะวันออกกลาง (Middle East) เมื่อประมาณ 900 กว่าปีก่อนคริสตกาล เป็นเหล็กที่เกิดจากการตีทบกันของเหล็กหลายชั้น (Laminated steel) โดยใช้เหล็กสองถึงสามชนิดตีทบกัน ทำให้เนื้อเหล็กมีคุณสมบัติที่ดีเยี่ยมทั้งด้านความแข็ง เหนียว ยืดหยุ่น และความคม


จากหลักฐานพบว่าเหล็ก Damascus พบได้ตั้งแต่สมัยโรมันเพื่อใช้ทำชุดเกราะและอาวุธ โดยมีชื่อเสียงมากขึ้นจากอาวุธที่ถูกใช้โดยพวกอาหรับ แต่วิธีการผลิตเหล็ก Damascus ที่แท้จริงได้สูญหายไปเมื่อประมาณ 400 กว่าปีก่อน ทำให้ปัจจุบันนี้เหล็ก Damascus ที่พบเห็นทั่วไปเป็นเหล็กที่ทำเลียนแบบลักษณะภายนอกให้คล้ายเหล็ก Damascus ของดั่งเดิมด้วยวิธีการผลิตที่แตกต่างกัน


เหล็ก Damascus ปัจจุบันนี้ทำจากเหล็กผสมอัลลอยด์ผสมคาร์บอน ซึ่งลายน้ำ (Carbine precipitated sheet) เป็นส่วนที่ทำให้เหล็กชนิดนี้มีความแข็งมากขึ้น หากคมของมีดถูกออกแบบมาให้ตรงกับตำแหน่งของลายน้ำสีเข้มนี้จะทำให้คมมีดมีความคมและแข็งแรงมากขึ้น ในการผลิตใช้วิธีการตีทบกันของเหล็กหลายชนิดและหลายชั้นคล้ายกับการตีดาบญี่ปุ่น Katana ที่เลื่องชื่อ


มีดที่ทำจากเหล็ก Damascus ที่ดีนั้นควรมีลายน้ำที่ชัดเจน ลายน้ำขนานกันสม่ำเสมอ เวลาประเมินคุณภาพของเนื้อเหล็กมักจะดูจากจำนวนชั้นของเหล็กที่ตีทบกัน (ขั้นต่ำสุดควรมีอย่างน้อย 500 ชั้น) ยิ่งมีจำนวนชั้นมากขึ้น ยิ่งมีคุณภาพดี นอกจากนั้นมีดที่ทำโดยการตีมีดขึ้นรูปแบบดั้งเดิมจะมีคุณภาพดีกว่าการใช้เครื่องมือตัดแผ่นเหล็กเป็นรูปใบมีดเพราะชั้นต่างๆของเนื้อเหล็กจะยังเกาะติดกันดีอยู่เมื่อใช้วิธีการตีขึ้นรูป


สีของลายน้ำในเหล็ก Damascus มีความแตกต่างกันขึ้นกับปริมาณของอัลลอยด์ในเนื้อเหล็กและวิธีการตีเหล็กขึ้นรูป มีการแช่ในน้ำกรดเพื่อให้ลวดลายชัดขึ้นแต่ไม่ใช่เพื่อสร้างลายน้ำ (มีดที่ทำให้เกิดลายน้ำโดยใช้น้ำกรดกัดนั้นเป็นมีดที่มีคุณภาพต่ำและไม่ถือว่าเป็นเหล็ก Damascus แต่ก็มีช่างทำมีดบางรายใช้เหล็กแบบนี้และหลอกผู้ซื้อว่าเป็นเหล็ก Damascus)


ถึงแม้วิธีการทำเหล็ก Damascus ที่เลื่องชื่อในอดีตได้หายสาบสูญไปแล้ว แต่มีดที่ทำจากเหล็ก Damascus สมัยใหม่ก็ยังถือว่ามีความสวยงามและแข็งแกร่งไม่แพ้ในอดีต การหามีดที่ทำจากเหล็ก Damascus ที่ดีนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายแต่ก็ไม่ยากจนเกินไปนัก


สุดท้ายนี้ทุกครั้งที่จับมีดขอให้มี “สติ”


                                                               เรียบเรียงโดย Batman


                                                                        อ้างอิงเนื้อหาบางส่วนจากบทความเรื่อง Damascus Steel Blades จาก the-knife-connection.com ,Damascus Blade Blanks – Starting with Quality จาก knife-making-supplies.net

The General Election (Something missing)

The General Election (Something missing)


ในวันที่ 3 ก.ค.54 นี้อยากเชิญชวนให้ทุกท่านออกไปใช้สิทธิใช้เสียงตามระบบประชาธิปไตย หลายคนคงคิดว่าวิกฤติการเมืองครั้งนี้เป็นความแตกแยกของพรรคการเมือง แต่ในความเห็นส่วนตัวแล้ววิกฤติครั้งนี้เป็น "วิกฤติของจิตสำนึกของทุกคนในชาติ” ไม่ใช่ความรับผิดชอบของนักการเมืองเพียงอย่างเดียว


เมื่อเกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรงในสังคมก็เปรียบเสมือนลูกตุ้มที่แกว่งไปด้านใดด้านหนึ่งมากเกินไป การจะแก้ไขให้ลูกตุ้มแกว่งกลับมาอยู่ตรงกลางได้นั้นก็ต้องกลับมาคิดกันว่า “อะไรที่ขาดหายไปจากสังคมของเรา”


ถ้าความเป็นธรรมในสังคมหายไปก็ต้องคืนความเป็นธรรมให้กลับมา ถ้าคิดว่าระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขควรมีเพียง 3 อำนาจหลักเพื่อใช้ถ่วงดุลกัน (บริหาร, นิติบัญญัติ, ตุลาการ ซึ่งปัจจุบันทั้งสามขานี้อ่อนแออย่างมาก) เราก็ควรรู้ว่าอำนาจทั้งสามนี้ควรทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ส่วนอำนาจอื่นๆนอกเหนือจากสามขาหลักนั้นเราก็ไม่ควรยอมรับบทบาท ถ้าเราคิดว่าการที่คนไทยฆ่ากันเองเพราะความคิดเห็นที่แตกต่างเป็นเรื่องปกติยอมรับได้ เราก็ควรพิจารณาตัวเองว่าจิตสำนึกความเป็นคนไทยของเราหายไปไหน ถ้าเราคิดว่าการดำเนินการนอกระบบระเบียบที่สังคมยอมรับเป็นสิ่งที่ดี เราก็ต้องเปลี่ยนความคิดเสียใหม่ ถ้าเราคิดว่าทหารซึ่งควรเป็นรั่วของชาติกลับหันปากกระบอกปืนมายังประชาชนซึ่งเป็นคนที่พวกเขาควรปกป้องนั้นเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ เราก็ควรคิดเสียใหม่ว่านานาประเทศที่เจริญแล้วเขาคิดอย่างเราหรือไม่ ถ้าเราไม่รู้ว่าหน้าที่ของผลเมืองที่ดีนั้นต้องทำอะไรบ้าง สังคมก็คงเดินหน้าต่อไปได้ลำบาก


ถ้าเราคิดว่าการเลือกตั้งเป็นจุดจบของปัญหา ก็ควรคิดเสียใหม่ว่ามันอาจเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาใหม่ๆ ตราบใดที่ “เราทุกคนไม่รู้ว่าอะไรหายไปจากสังคมของเราและไม่สามารถนำมันกลับมาได้”


สุดท้ายนี้ขอให้ใช้ “สติ” ในการดำเนินชีวิตและแก้ไขปัญหาของชาติ
                                                                                                                        Batman

Monday, June 27, 2011

Tiger Claw

Tiger Claw

อาวุธมีคมหลายชนิดได้แรงบันดาลใจจากความร้ายกาจของสัตว์ร้ายในธรรมชาติ ยกตัวอย่างเช่น Bagh nakh หรือ Wagh nak (แปลว่า กรงเล็บเสือ ในภาษาฮินดู) หรือ Tiger Claw ซึ่งมีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศอินเดียและแพร่หลายในเอเชียใต้ ช่วงเวลากำเนิดไม่ชัดเจนแต่พบว่ามีใช้ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 17 ถึง 19


ในช่วงแรกจะเป็นแผ่นเหล็กยาว (Cross bar) มีสองรูสำหรับกำและสอดนิ้ว โดยมีใบมีดโค้งยื่นออกมาตั้งฉากสามถึงห้าใบคล้ายกรงเล็บ ต่อมามีพัฒนาการออกไปหลายแบบ เช่น มีสองห่วงเอาไว้คล้องนิ้วมือชี้และนิ้วก้อย มีใบมีดโค้งหรือตรงอยู่ทางด้านปลายของ Cross bar เรียกว่า Bichawa bagh nakh (Bichawa เป็นชื่อใบมีดที่มีลักษณะคล้ายเข็มของแมงป่อง หรือ Scorpion knife)

เป็นอาวุธที่ถูกใช้ในลักษณะพกซ่อนจะนำออกมาใช้เพื่อสร้างความประหลาดใจให้กับคู่ต่อสู้ ส่วนใหญ่จะเอาใบมีดคมออกด้านนอกเวลากำมือ แต่บางแบบก็เอาคมหลบมาไว้ในฝ่ามือ บางครั้งมีการประดับห่วงด้วยเครื่องประดับมีค่าเพื่อให้ดูเหมือนใส่แหวนไว้ที่นิ้ว


อาวุธนี้สามารถพกซ่อนได้ง่ายจึงมักถูกใช้โดยพวกมิจฉาชีพ ซึ่งเหยื่อมักไม่มีอาวุธในมือ ใช้ในการลอบทำร้ายหรือสังหาร


Bagh nakh เป็นอาวุธโบราณไม่มีใช้ในปัจจุบัน แต่อาจเห็นอาวุธซึ่งมีลักษณะคล้ายกันนี้ได้ในหลายวัฒนธรรมแถบเอเชีย และในปัจจุบันมีอาวุธซึ่งมีลักษณะบางอย่างอาจได้รับอิทธพลมาจาก Bagh nakh เช่น Karambit เป็นต้น ปัจจุบันบริษัทผลิตมีดชั้นนำบางแห่งยังมีการทำมีดที่มีลักษณะคล้าย Bagh nakh ออกสู่ท้องตลาดอยู่บ้าง

สุดท้ายนี้ทุกครั้งที่จับมีดขอให้มี “สติ”

                                                                                                เรียบเรียงโดย Batman

                                                            อ้างอิงเนื้อหาบางส่วนจากบทความเรื่อง Bagh nakh 1924.9.1 จาก PittRivers museum, Wikipedia, Bagh nakh or wagh nak (Tiger claw) จาก world of weapon, Types of daggers จาก Knife depot

การฝึกอบรม Self-defense with a Knife

การฝึกอบรม Self-defense with a Knife


เปิดรับการฝึกอบรมการป้องกันตัวด้วยอาวุธ “มีด” สำหรับประชาชนทั่วไป
จุดประสงค์       เพื่อเพิ่มพูนความรู้และทักษะการป้องกันตัวด้วยอาวุธ “มีด” ให้กับประชาชนทั่วไป
เนื้อหาการฝึกอบรม (การบรรยายและปฏิบัติ)
-          หลักการป้องกันตัวและการประเมินสถานการณ์
-          ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับอาวุธมีด
-          การถือมีด (Knife griping) ท่าเตรียมพร้อม (Fighting stance)
-          พื้นฐานรูปแบบและทิศทางการโจมตีด้วยมีด (Basic patterns and directions of knife attack)
-          การเคลื่อนที่ (Footwork)
-          กลยุทธ์การป้องกันตัวด้วยมีด (Strategy of self-defense with a knife)
-          การฝึกซ้อมการป้องกันตัวด้วยมีด (Knife sparring and drill)
ระยะเวลาการฝึกอบรม             วันจันทร์ – พฤหัส เวลา 18.00 – 20.00น. วันศุกร์ - วันอาทิตย์ เวลา 13.00 – 20.00 น. (จะโทรยืนยันวันฝึกที่แน่นอนอีกครั้ง)
ผู้รับการฝึกอบรม          หญิงหรือชาย อายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป (ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ ต้องมีผู้ปกครองยินยอม) รับจำนวนจำกัด
สถานที่             ชั้น 3 ร้านขอขวัญ เลขที่ 102/24 ซอย พัฒนาการ 58  เยื้อง ร.ร. เตรียมพัฒนาการ เขต สวนหลวง กรุงเทพฯ 10250แผนที่
GPS        N 13-43.832  E 100-38.871
ค่าฝึกอบรม       600 บาท/ช.ม./ท่าน (เรียนส่วนตัว), 500 บาท/ช.ม./ท่าน (เรียนเป็นกลุ่มย่อยตั้งแต่ 2 ท่าน ขึ้นไป)
การแต่งกาย      เสื้อยืด กางเกงวอร์ม หรือ แต่งกายรัดกุม
อุปกรณ์เพื่อความปลอดภัย       แว่นตานิรภัย (ถ้ามี), มีดซ้อม (ถ้ามี), Arm guard (ถ้ามี), ถุงมือ (ถ้ามี)
เอกสารประกอบการสมัคร        ใบสมัคร, สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน 1 ใบ, ใบยินยอมจากผู้ปกครอง (ในกรณีผู้รับการฝึกอายุต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์)
ครูฝึก    ครู วีระ (Batman)
ติดต่อ   ครู วีระ (Batman) โทร. 081-666-0266, Fax. 02-349-6207
                        e-mail : thaiselfdefense@gmail.com

Thursday, June 16, 2011

Knife Drill

Knife Drill



ในการฝึกซ้อมการป้องกันตัวด้วยอาวุธมีดนั้นประกอบด้วย 3 ส่วน คือ การให้ความรู้ทางทฤษฏี การฝึกซ้อมท่าทางต่างๆ (Knife Drill) และ การซ้อมการต่อสู้ด้วยอาวุธมีด (Knife Sparring)


การฝึกซ้อมท่าทางต่างๆ (Knife Drill) อาจเป็นการฝึกซ้อมด้วยตัวคนเดียวหรือมีคู่ซ้อมอยู่ด้วย เป็นการทำท่าทางต่างๆซ้ำๆกันจนร่างกายและกล้ามเนื้อจดจำการเคลื่อนไหวเหล่านั้นได้ (Muscle memory) เป็นผลให้การใช้อาวุธมีดมีความไหลลื่นอย่างเป็นธรรมชาติและเป็นไปโดยอัตโนมัติ ทำให้การตอบสนองต่างๆทำได้อย่างรวดเร็ว


การฝึกซ้อมโดยมีคู่ซ้อมอยู่ด้วยถือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะสามารถทำให้รูปแบบการฝึกซ้อมมีความหลากหลาย การฝึกซ้อมอย่างหนึ่งที่นิยมกัน เรียกว่า Flow Drill เป็นการฝึกซ้อมกับคู่ซ้อมโดยประกอบด้วยท่าทางการรับและรุกด้วยอาวุธมีด ผลัดกันทำทั้งสองฝ่ายไม่ว่าจะมีรูปแบบเฉพาะหรือไม่ก็ตาม เพียงแต่ขอให้มีความไหลลื่นต่อเนื่องเพื่อสร้างทักษะความชำนาญในการใช้อาวุธมีด


เหมือนกับการฝึกอาวุธทุกชนิดไม่ว่าจะเป็น ปืน มีด หรือ ไม้ จะใช้อาวุธเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้นต้องอาศัยความรู้และการฝึกฝนให้เกิด “ทักษะ”


สุดท้ายนี้ทุกครั้งที่จับมีดขอให้มี “สติ”


เรียบเรียงโดย Batman

Thursday, June 2, 2011

Knife Threat

Knife Threat



อาวุธมีดเป็นอาวุธที่ถูกนำมาใช้ก่อเหตุร้ายมากที่สุด เพราะเป็นอาวุธที่หาได้ง่ายและพกซ่อนได้สะดวก มีดทุกชนิดสามารถนำมาใช้เป็นอาวุธได้ ไม่ว่าจะเป็นมีดทำครัว มีดปลอกผลไม้ มีดคัตเตอร์


ภัยคุกคามจากมีด (Knife Threat) มีอยู่ 2 รูปแบบใหญ่ๆ คือ


- การถูกจี้ด้วยมีด เช่น การถูกมีดจี้คอ ท้อง หลัง เป็นต้น ในการเอาตัวรอดออกจากสถานการณ์ร้ายเช่นนี้ เราต้องมีความรู้และทักษะในการปลดอาวุธมีดของคนร้ายหรือรู้วิธีทำให้มีดนั้นไม่สามารถมาทำร้ายเราได้ นอกจากนั้นต้องรู้ว่าควรจะลงมือเมื่อใด จังหวะใด จึงจะมีโอกาสประสบผลสำเร็จมากที่สุด


- การถูกทำร้ายด้วยมีด (Knife Attack) เราจะสามารถรับมือกับสถานการณ์นี้ได้ก็ต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจ ว่ามีดเมื่อถูกนำมาใช้เป็นอาวุธนั้นสามารถทำอะไรได้บ้าง มันมีข้อได้เปรียบ-เสียเปรียบ หรือข้อจำกัดอะไรบ้าง รู้จักใช้ระยะห่างให้เป็นประโยชน์ มองหาสิ่งของรอบตัวมาใช้เป็นอาวุธ และถ้าเรามีอาวุธมีดอยู่ด้วยก็ต้องรู้ว่าจะนำมันมาใช้เมื่อใดและใช้อย่างไร


วิธีการรับมือกับภัยคุกคามจากมีดถูกพัฒนามาจากความรู้เหล่านี้ ถึงแม้จะมีหลายวิธีในการจัดการกับภัยคุกคามจากมีด รูปแบบส่วนใหญ่ก็มีหลักการใหญ่ๆที่เหมือนกันแต่แตกต่างในรายละเอียดปลีกย่อยเท่านั้น


การฝึกการป้องกันตัวด้วยอาวุธมีดนั้นจะทำให้เรารู้ถึงธรรมชาติของการใช้มีดเป็นอาวุธ ซึ่งจะนำไปสู่วิธีการรับมือกับภัยคุกคามจากมีดด้วยมือเปล่าหรืออาวุธอื่นๆ


ในการเผชิญเหตุร้ายนั้นต้องเตรียมตัวเตรียมใจที่อาจจะได้รับบาดเจ็บจากอาวุธของคนร้าย เราต้องรู้วิธีที่จะทำให้เกิดโอกาสหรือการบาดเจ็บน้อยที่สุด เรียกว่า Damage control หรือ การควบคุมความเสียหาย


ไม่มีวิธีการใดสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ ทุกวิธีมีข้อดี ข้อเสีย ข้อจำกัดเสมอ เพียงแต่เรารู้และเลือกนำมาใช้ให้เหมาะกับคนและสถานการณ์ก็จะเพิ่มโอกาสรอดให้กับเราได้


วิธีการใดใช้ได้ผลขึ้นกับว่า ใครเป็นคนใช้ และ ใช้กับใคร


สุดท้ายนี้ทุกครั้งที่จับมีดขอให้มี “สติ”


เรียบเรียงโดย Batman

Easy Defense Studio

Easy Defense Studio



สถานที่เรียน การป้องกันตัว (Self-defense) และศิลปะมวยไทยไชยาในห้องเรียนติดแอร์ สำหรับเยาวชนและสุภาพชนทั่วไป


ตั้งอยู่ที่ ชั้น 3 ร้านขอขวัญ เลขที่ 102/24 ซอย พัฒนาการ 58 เยื้อง ร.ร. เตรียมพัฒนาการ เขต สวนหลวง กรุงเทพฯ 10250


GPS: N 13-43.832 E 100-38.871


สอบถามรายละเอียดที่ ครูเจี๊ยบ โทร. 081-911-8945


วิชาที่เปิดสอน


- ยุทธสติในการป้องกันตัว (Awareness Self-defense)


- ศิลปะป้องกันตัวในชีวิตประจำวัน (Surviving the Streets)


- ศิลปะป้องกันตัวสำหรับสุภาพสตรี (Self-defense Strategies & Combative Tactics for Women)


- ศิลปะการใช้มีดเพื่อป้องกันตัว (Tactical Knife Defense)


- มวยไทยไชยา (Muay Thai Chiya)


หมายเหตุ ทุกวิชานัดเรียนได้ โทร. 081-911-8945


ค่าฝึกอบรม - ครั้งละ 300 บาท ต่อ 2 ช.ม. (เฉลี่ย ช.ม. ละ 150 บาท)
                                - ครั้งละ 500 บาท ต่อ 2 ช.ม. สำหรับการฝึกอบรมศิลปะการใช้มีดเพื่อป้องกันตัว

คุณสมบัติผู้รับการฝึกอบรม : มาสมัครด้วยตนเอง, เป็นผู้มีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัวซึ่งอาจเป็นอุปสรรคต่อการฝึกอบรม, ผู้ที่อายุต่ำกว่า 18 ปี ต้องมีผู้ปกครองยินยอม
 

Samsung LCD televisions